แนะนำ

Cinema Line Spotlight | URANUS2324 by James Thanadol and A Witch Trial by Sarah-Tabea Sammel

Calvin — Wed, 11 Dec 2024 02:52:12 +0000

Cinema Line Spotlight | ยูเรนัส2324 โดยผู้กำกับ เจมส์ ธนดล และ A Witch Trial โดยผู้กำกับ Sarah-Tabea Sammel

Calvin Wed, 12/11/2024 - 08:22

Article Categories

แนะนำ

Body Category

FX3

Venice 2

BURANO

Sony มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนจินตนาการของผู้กำกับทุกคนให้กลายเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ชื่อดังหรือหนังสั้นนอกกระแส กล้อง Cinema Line ระดับมืออาชีพของเราตอบโจทย์ทุกความต้องการของเหล่านักสร้างภาพยนตร์ทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพยนตร์ซึ่งจะถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ลงสู่จอเงิน ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ประเภทใด กล้อง Cinema Line ก็พร้อมช่วยให้เหล่าผู้สร้างรับมือกับโลกแห่งการถ่ายทำแบบใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคยได้ สำหรับไตรมาสนี้ เราจะมาศึกษารายละเอียดกระบวนการสร้างสรรค์เบื้องหลังภาพยนตร์อวกาศฟอร์มยักษ์ระดับมาสเตอร์พีซ ยูเรนัส2324 และภาพยนตร์สั้นนอกกระแสสัญชาติสิงคโปร์อย่าง A Witch Trial แล้วหาคำตอบกันว่ากล้อง Cinema Line มีส่วนช่วยในงานโปรดักชันของภาพยนตร์ทั้งสองนี้อย่างไร

ภาพยนตร์น่าจับตามองเรื่องที่ 1 | ยูเรนัส2324

ยูเรนัส2324 เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกไซไฟแฟนตาซีสัญชาติไทยจากฝีมือการกำกับของเจมส์ ธนดล จากค่ายเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ (VelCurve Studio) ซึ่งผสมผสานองค์ประกอบของการสำรวจอวกาศจักรวาลคู่ขนาน ตลอดจนความรักที่ข้ามเวลาและมิติ โดยบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ “ลิน” นักบินอวกาศหญิง รับบทโดย “ฟรีน” สโรชา
จันทร์กิมฮะ และ “แคท” สาวนักดำน้ำฟรีไดฟ์ รับบทโดย “เบ็กกี้” รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ยามที่คนทั้งคู่ท้าทายกาลเวลาและห้วงอวกาศเพื่อหาทางกลับมาพบกัน

เราได้พูดคุยกับผู้อำนวยการสร้าง คีตะวัฒน์ ชินโคตร และผู้กำกับภาพ อานนท์ จันทร์ประเสริฐ จากค่ายเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ เพื่อเจาะลึกกระบวนการผลิตภาพยนตร์เรื่องยูเรนัส2324 ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง VENICE 2 และ BURANO นี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความท้าทายอะไรบ้าง

ตอบได้เลยว่า คือ ฉากอวกาศต่าง ๆ เพราะเราคุ้นเคยและเชี่ยวชาญกับฉากใต้น้ำอยู่แล้ว แต่อวกาศเป็นอะไรที่เราไม่เคยรับมือมาก่อน เราต้องคิดหาวิธีการทำงานในแบบของเราเอง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องบทหนังเท่านั้น หนังเรื่องนี้ต้องใช้ทั้งอุปกรณ์เฉพาะทางและ Visual Effect เพราะเราสื่อสารเนื้อเรื่องส่วนใหญ่โดยใช้ภาพ

อีกหนึ่งเรื่องยากคือ การตามซีนแอ็กชันต่อเนื่องให้ทัน เนื่องจากลักษณะการเดินเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้เราต้องเข้าไปใกล้นักแสดงในระหว่างซีนแอ็กชันต่อเนื่อง เพื่อดึงผู้ชมให้เข้าไปอยู่ในเรื่องราวได้อย่างเต็มที่ โชคดีที่เรามีกล้อง VENICE Extension System 2 ซึ่งช่วยให้เราจับภาพซีนโคลสอัพพวกนี้ได้ง่ายมาก สิ่งที่ต้องทำมีแค่สวมตัวกล้องไว้ที่หลังเหมือนสะพายกระเป๋าเป้โดยมีสายต่อตรงไปที่ตัวเลนส์ ซึ่งทำให้การถ่ายทำสะดวกขึ้นมาก ๆ เพราะเราสามารถตามจับภาพการเคลื่อนไหวได้อย่างใกล้ชิดขณะที่นักแสดงเคลื่อนที่ไปมา

กล้อง Cinema Line มีส่วนช่วยในโปรดักชันของคุณอย่างไรบ้าง

เราคำนึงถึงความเข้มข้นและความสลับซับซ้อนในการถ่ายทำเรื่องยูเรนัส2324 ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ VENICE 2 และ BURANO เป็นกล้องในกองถ่าย กล้อง Cinema Line เหมาะมากสำหรับการถ่ายทำหนังที่เน้น Visual Effect หนัก ๆ เพราะเป็นกล้องที่มีช่วงไดนามิกสูงสำหรับซีนที่มีแสงน้อยและรองรับการทำงานร่วมกับกล้องหลายตัวเพื่อการย้อมสีที่ลื่นไหล

เราเลือก VENICE 2 เป็นกล้องหลักสำหรับซีน Visual Effect ใต้น้ำและในอวกาศ เพราะมี X-OCN XT codec ที่มี RAW แบบ 16 บิต ซึ่งเป็นอัตราบิตสูงสุดที่ช่วยให้ขั้นตอน Post-production มีความยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับกล้อง B cam เราเลือกใช้ BURANO เพราะประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อยและความคล่องตัวในการใช้งาน ซึ่งช่วยให้เราสามารถเก็บฟุตเทจได้จากหลากหลายมุม ยิ่งไปกว่านั้น X-OCN LT codec ของ BURANO ยังเป็น RAW แบบ 16 บิต ซึ่งทำให้การจับคู่สีกับฟุตเทจที่ถ่ายทำด้วย VENICE 2 เป็นเรื่องง่ายในกระบวนการ Post-production

เนื่องจากเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ (VelCurveStudio) เชี่ยวชาญด้าน Post-production ด้วย เราจึงค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกไฟล์กล้อง กล้อง Cinema Line ช่วยให้งานของเราง่ายขึ ้นใน ทุก ๆ ด้าน ท าให้เราสามารถเกลี่ยสีซีนที่ย้อนแสงมาก ๆ ซึ่งถ่ายตรงชายหาดและซีนในร่มได้อย่างไม่มี ที่ติ นอกจากนี ้ เรายังเก็บภาพฟุตเทจได้โดยมีเสียงรบกวนต ่าด้วย

พวกเราดีใจที่ตัดสินใจเลือกใช้กล้อง Cinema Line เพราะมันช่วยให้ทีมงานไม่ต้องพะวงเรื่องพื้นฐานทางเทคนิค และหันไปจดจ่อกับการบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ด้วยภาพได้อย่างเต็มที่

ภาพยนตร์น่าจับตามองเรื่องที่ 2 | A Witch Trial

A Witch Trial เป็นภาพยนตร์สั้นดราม่าสยองขวัญเชิงจิตวิทยา ผลงานการกำกับ เขียนบท และอำนวยการสร้างโดย Sarah-Tabea Sammel ซึ่งเล่าเรื่องราวของ Raaka นักธุรกิจสาวเก่งที่ชอบสงสัยในตัวเองผู้ถูกหุ้นส่วนธุรกิจทรยศขณะติดอยู่ในลิฟต์ขนส่งสินค้าและเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เธอนึกสงสัยความสามารถในการเป็นผู้นำของตนเอง

เพราะสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างการตีตราบาปผู้หญิงในประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดกับการจ้องจับผิดที่ผู้หญิงสมัยใหม่ต้องเผชิญในโลกธุรกิจ Sarah-Tabea จึงสร้างภาพยนตร์สั้นสะเทือนอารมณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงสามารถต่อสู้ผู้กดขี่ของตนได้อย่างไรเพื่อเอาสิ่งที่ถูกพรากไปกลับคืนมา เราได้พูดคุยกับ Sarah-Tabea เพื่อเจาะลึกเกี่ยวกับการวางไอเดียเริ่มต้นและโปรดักชันของภาพยนตร์เรื่องนี้

อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณถ่ายทำ กำกับ และอำนวยการสร้าง A Witch Trial

ตอนที่ค้นคว้าหาข้อมูล ฉันพบว่าผู้หญิงจำนวนมากรวมถึงตัวฉันด้วยรู้สึกกดดันที่จะต้องหานิยามให้ตัวเองล่วงหน้า เพื่อปกป้องตัวเองจากคำตัดสินของผู้อื่นที่จะยิ่งทำให้ความไม่เท่าเทียมและความแบ่งแยกระหว่างเพศเพิ่มขึ้น การเซ็นเซอร์ตัวเองแบบนี้และการถูกบ่อนทำลายความมั่นใจทำให้ผู้หญิงมากมายจมดิ่งลงในสถานการณ์ที่ยิ่งทวีความเลวร้าย รู้สึกกังขาคุณค่าในตัวเอง จำกัดการเติบโต และกีดขวางความสามารถในการฝึกใจดีกับตัวเอง การที่ฉันตั้งคำถามเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ตนเองของผู้หญิงและอคติต่าง ๆ ที่ฝังรากลึกอยู่คือสิ่งที่เติมไฟให้ความหลงใหลในโปรเจกต์นี้ของฉัน ฉันใช้ลิฟต์ขนส่งสินค้ามาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าผู้หญิงจำกัดตัวเองทางร่างกายและจิตใจอย่างไร โดยให้ตัวละครเอกติดอยู่ในกล่องลิฟต์

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความท้าทายอะไรบ้าง

เราเผชิญกับข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ เวลา และงบประมาณ ไม่ต่างจากหนังสั้นนอกกระแสเรื่องอื่น ๆ สิ่งที่ฉันวางแผนไว้คือ เราจะถ่ายทำกันในลิฟต์ขนส่งสินค้าจริงเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกสมจริงตอนที่ตัวละครเอกมีอาการแพนิครุนแรง ซึ่งเป็นซีนที่มีความซับซ้อนและใช้เวลาถ่ายทำนานมาก สภาพแสงที่น้อยสุด ๆ และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวร่างกายเวลาทำงานในพื้นที่ลิฟต์แคบ ๆ ที่มีแสงสะท้อนถือเป็นเรื่องท้าทายมาก แต่แทนที่จะหมดกำลังใจ เราก็พยายามหาทางแก้ปัญหานี้ให้ได้ เรารู้ว่าเราต้องการอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อทำงานให้สำเร็จและหาไอเดียสำหรับภาษาภาพและเสียงที่จะนำข้อจำกัดที่เรามีอยู่มาใช้เป็นหลักในการเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการถ่ายทำ

กล้อง Cinema Line มีส่วนช่วยในโปรดักชันของคุณอย่างไรบ้าง

เราถ่ายทำ A Witch Trial ด้วยชุดกล้องคู่ โดยมี BURANO เป็นกล้องหลักและ FX3 เป็นกล้องรอง กล้องชุดนี้ไม่ได้แค่สร้างประสบการณ์ภาพยนตร์ที่มีภาพสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเอื้อให้เราใช้ภาพในการแสดงถึงความเป็นจริงในช่วงเวลาสำคัญได้แบบไม่เหมือนใครด้วย เช่น อาการแพนิคของ Raaka เราถ่ายซีนอาการแพนิคนี้ด้วยเทคนิค Lens whacking (โดยแยกตัวกล้องออกจากเลนส์) ตามคำแนะนำของผู้กำกับภาพเพื่อเล่าเรื่องด้วยภาพแบบนามธรรม วิธีนี้ทำให้การแสดงออกมาดูสมจริงมากขึ้น แต่ละช็อตดูแตกต่างกันชัดเจนและเป็นธรรมชาติ

ก ากับภาพของเรารู้ สึกว่า BURANO ช่วยในการควบคุมภาพได้อย่างดีเยี่ยม โดยท าให เขาสามารถสร้ างความลึกของโทนสีได้ผ่านทางวิธีที่กล้องจับภาพแสงโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ปรับแสงมากนัก ซึ่งเป็นสิ่งส าคัญมากในพื ้นที่ถ่ายท าที่จ ากัดส าหรับหนังเรื่องนี ้ ส่วน FX3 ช่วยให้เขาถือกล้องถ่ายท าได้ อย่างยืดหยุ่นร่วมกับเทคนิค Lens whacking พร้ อมทั้ง รักษาสีสันและโทนสีเดิมไว้ได้ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งสีของเราอยู่ในอังกฤษ ทีมของเราจึงไม่สามารถมายืนรวมตัวกันรอบจอมอนิเตอร์เพื่อให้ฟี ดแบ็กได้ แต่ Cinema Line มีประสิทธิภาพด้านการแสดงภาพที่มีคุณภาพสูงและสม ่าเสมอมากจนเรารู้ว่าเรา ก าลังเกลี่ยสีและดูหนังสั้นเรื่องเดียวกันอยู่

โดยรวมแล้ว Cinema Line เป็นระบบกล้องที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ในฐานะของผู้สร้างหนังนอกกระแส ฉันกับทีมงานคอยเสาะหาอุปกรณ์ที่เหมาะกับกระบวนการทำงานที่มีข้อจำกัดสูงของเราอยู่เสมอ สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจที่สุดคือ การที่ทีมงาน Sony ใส่ใจกับความต้องการของนักสร้างหนังนอกกระแสอย่างจริงจัง พวกเขาตอบสนองฟีดแบ็กของผู้ใช้งานในวงการนี้อย่างสม่ำเสมอ พยายามทำความเข้าใจวิธีที่พวกเขาสามารถสนับสนุนการทำงานของเราได้อย่างกระตือรือร้น การมีส่วนร่วมในระดับนี้มีประโยชน์มหาศาลตลอดกระบวนการสร้างหนังของเรา

Cinema Line Spotlight ประจำไตรมาสนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตามครั้งต่อไป!

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

FX3

Cinema Line Full-Frame Camera with ultra compact and lightweight

Venice 2

Full-frame digital cinema camera with internal X-OCN recording and choice of 8K and 6K sensors

BURANO

Versatile, lightweight, and compact full-frame 8K cinema camera

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

Introducing Sony's Burano: A game-changer for solo and small crew productions

geraldyeong — Fri, 15 Dec 2023 09:02:55 +0000

ขอแนะนำ Sony Burano: จุดเปลี่ยนสำหรับงานโปรดักชันคนเดียวและทีมขนาดเล็ก

geraldyeong Fri, 12/15/2023 - 14:32

Article Categories

บทวิจารณ์

Body Category

BURANO

เมื่อพูดถึงการถ่ายทำคนเดียว การมีกล้องคุณภาพสูงที่มาพร้อมความสามารถระดับมือโปรก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ และนั่นคือที่มาของ Sony Burano ซึ่งเป็นกล้องถ่ายภาพยนตร์ดิจิทัลรุ่นใหม่ล่าสุดในไลน์ CineAlta ของ Sony ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับตากล้องคนเดียวและทีมขนาดเล็ก ด้วยคุณภาพของภาพอันยอดเยี่ยมและความคล่องตัวสูงของ Burano รุ่นนี้ ผู้สร้างภาพยนตร์จึงสามารถรังสรรค์เรื่องราวให้ออกมาโลดแล่นเป็นภาพยนตร์ได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะมีทีมโปรดักชันกี่คนก็ตาม

สารบัญ

ดูการทำงานจริง

สารบัญ

ยุคใหม่ของการถ่ายทำภาพยนตร์: Burano กล้องฟูลเฟรมสุดล้ำในไลน์ CineAlta ภายใต้รูปทรงที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน

ความละเอียดอันยอดเยี่ยมระดับ 8K: กล้องถ่ายภาพยนตร์ดิจิทัลรุ่นแรกของโลกที่มี PL-mount สามารถป้องกันการสั่นของกล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพระหว่างการถ่ายแบบ handheld หรือการเคลื่อนไหวของกล้องในลักษณะอื่น ๆ

ถ่ายในแบบที่คุณต้องการ: คู่หูความสามารถรอบด้านที่ปรับได้ตามความต้องการ มาพร้อมจอแสดงผล LCD ทัชสกรีนอเนกประสงค์ ระบบเมาท์เลนส์ที่ราบรื่น และที่จับมีความแข็งแรงเพื่อการจัดวางตำแหน่งอย่างง่ายดาย

ดูการทำงานจริง

เพื่อเป็นการโชว์ศักยภาพสูงสุดของสุดยอดกล้องความสามารถครบในหนึ่งเดียวรุ่นนี้ เราได้ร่วมมือกับผู้กำกับภาพที่มีชื่อเสียงเพื่อผลิตซีรีส์ภาพยนตร์สั้นที่ถ่ายทำด้วยกล้อง Burano ทั้งหมด มาชมเบื้องหลังการถ่ายทำครั้งนี้ว่าทีมงานแต่ละทีมได้ทำให้จินตนาการภาพยนตร์ของตนกลาเป็นจริงได้อย่างไร

At the Motel โดย Stefan Duscio และ Sam Corlett

Stefan Duscio ผู้กำกับภาพจากออสเตรเลียที่มีรางวัลการันตีความยอดเยี่ยม ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่าง The Dry, Shantaram และ The Invisible Man ได้สร้างภาพยนตร์ชื่อ At the Motel ซึ่งภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เขียนบทและกำกับการแสดงโดย Sam Corlett นักแสดงชาวออสเตรเลีย โดยใช้นักแสดงและทีมงานไม่กี่คนถ่ายทำในช่วงสุดสัปดาห์เดียวเท่านั้น

Status

Pending Approval

ภาพยนตร์เชิงบทกวีกาพย์กลอนสะท้อนถึงความหาญกล้าอย่างสร้างสรรค์ของ Duscio ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความหลากหลายของสีแสดงถึงอารมณ์ความรู้สึก ไปจนถึงไดนามิกในส่วนไฮไลท์และรายละเอียดในส่วนเงามืด “ผมอยากทดสอบช่วงไดนามิกของกล้องด้วยเหมือนกัน ซึ่ง Burano ก็สอบผ่านฉลุย” เขากล่าว

Status

Pending Approval

Sum of One โดย Mostafa Fahmy และ Adi van der Walt

ผลงานร่วมกันระหว่างผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจากทั่วทุกภูมิภาค โดยผลงานเรื่อง "Sum of One" นี้นำทีมโดย Mostafa Fahm ผู้กำกับภาพจากตะวันออกกลาง และกำกับการแสดงโดย Adi van der Walt

Status

Pending Approval

ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เป็น "การผสมผสานของตัวละคร ความหลากหลาย และสถานที่" ซึ่งนำมาร้อยเรียงเพื่อสร้างเรื่องราวที่เชื่อมโยงถึงกัน ทีมงานได้ใช้ความยืดหยุ่นของเลนส์เพื่อรองรับรูปแบบการถ่ายทำที่หลากหลายให้เหมาะกับลักษณะของฉาก ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผลงานที่ดึงให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมได้อย่างแท้จริง ซึ่งก้าวข้ามขอบเขตของการเล่าเรื่องแบบเดิม ๆ

Fahmy กล่าวว่า “กล้องตัวนี้เป็นตัวกระตุ้นให้คนทำงานได้เร็วขึ้นเพราะมันใช้งานง่ายมาก” “ซึ่งคุณสามารถทำคนเดียวได้ หรือต้องการคนช่วยน้อยมาก”

Status

Pending Approval

Pedal โดย Jorrie van der Walt และ Izette Mostert

Jorrie van der Walt ผู้กำกับภาพมากประสบการณ์ของวงการภาพยนตร์ในแอฟริกาใต้ ได้ร่วมมือกับผู้กำกับ Izette Mostert เพื่อสร้าง "Pedal” ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้จะนำพาเราไปรู้จักกับคนกลุ่มหนึ่งในเมือง Kayamandi ที่รวมตัวกันด้วยใจรักในกีฬาชนิดหนึ่ง นั่นคือ กีฬาปั่นจักรยาน

Status

Pending Approval

สำหรับ Jorrie แล้ว เขาต้องการทดสอบกล้องในสถานการณ์ที่ท้าทายต่าง ๆ

กล้อง Burano สามารถติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยโฟกัสที่เที่ยงตรงและคมชัดเป็นพิเศษ ซึ่งเห็นได้ชัดจากฉากปั่นจักรยานกลางแจ้งหลายฉากในเรื่อง Pedal นอกจากนี้ ทีมงานยังต้องพึ่งความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการถ่ายทำในแบบเรียลลิตี้ซึ่งไม่มีการเซ็ตฉาก

“มันถือเป็นจุดเปลี่ยนเลยทีเดียว” เขาสรุป

Status

Pending Approval

ด้วยฟังก์ชันที่ล้ำหน้ารวมถึงการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ กล้อง Burano จึงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นกล้องที่มีความสามารถรอบด้าน มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับทุกโปรเจกต์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำที่มีการเขียนบทไว้ล่วงหน้าหรือเป็นการเล่าเรื่องแบบสารคดีก็ตาม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางจำหน่ายกล้อง Burano โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ Sony ของประเทศคุณ

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

BURANO

Versatile, lightweight, and compact full-frame 8K cinema camera

Trekking Through Iceland's Exotic and Mystical Terrain with James Liu | Alpha 7 IV | Alpha Traveller

charmane — Tue, 21 Nov 2023 05:58:39 +0000

เดินป่าฝ่าภูมิประเทศที่แปลกตา ลึกลับ และน่าทึ่งของไอซ์แลนด์กับ James Liu | Alpha 7 IV | Alpha Traveller

charmane Tue, 11/21/2023 - 11:28

Article Categories

แนะนำ

Body Category

Alpha 7 IV

Lens Category

FE 24-70mm F2.8 GM II

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

กล้องและเลนส์ Sony Alpha ช่วยมอบภาพที่น่าตื่นตะลึงและเก็บรักษาช่วงเวลาล้ำค่าที่เราได้สัมผัสในระหว่างการเดินทางเอาไว้ ติดตามการออกสำรวจและค้นพบความมหัศจรรย์ของโลกของนักเดินทางท่องโลกของเราในซีรีส์ Alpha Traveller นี้

James เผชิญกับสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยหิมะในไอซ์แลนด์เพื่อบันทึกภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

ไอซ์แลนด์ หรือ “ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง" นั้นเป็นที่รู้จักดีทั้งในเรื่องของธารน้ำแข็งและภูเขาไฟ เกาะทางตอนเหนือสุดของยุโรปแห่งนี้เป็นที่ตั้งของความแตกต่างทางธรณีวิทยาที่น่าทึ่งที่สุดและถือเป็นสถานที่ที่ช่างภาพทิวทัศน์ควรมาเยือนตลอดเวลาหลายปี ความเย้ายวนส่วนหนึ่งของที่นี่คือความท้าทายที่ต้องเผชิญ ซึ่งสำหรับ James Liu (@jamesliu0224) ที่ต้องการผลักดัน Alpha 7 IV ให้ถึงขีดสุดในสาวะที่สุดขั้วแล้วก็ไม่ต่างกัน James ทบทวนและบอกเล่าเรื่องราวที่เขาและกล้องคู่ใจได้ไปฝ่าฟันความท้าทายที่ไม่มีใครเหมือนในไอซ์แลนด์ ดินแดนบนละติจูดสูงที่มาพร้อมอุณหภูมิต่ำ

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 82mm | 1/1250 sec | F5 | ISO 250

ภูมิประเทศภูเขาอันน่าตื่นตาตื่นใจของไอซ์แลนด์

"ผมหลงใหลชีวิตกลางแจ้ง โดยเฉพาะภูเขา ซึ่งผมรู้สึกเหมือนมีจิตวิญญาณเชื่อมถึงกันกับผม ผมสนใจความคิดนี้มาโดยตลอด แต่เพิ่งได้เริ่มลองสำรวจจริงจังเมื่อได้เริ่มเดินทาง และตระหนักว่า ผมสามารถแชร์มุมมองของสถานที่ใหม่ ๆ เหล่านี้กับทุกคนได้" James เล่า

ความพยายามของ James นั้นสวนทางกับหลักการดั้งเดิมของการถ่ายภาพทิวทัศน์ โดยหลีกเลี่ยงการแต่งเติมให้สมบูรณ์แบบอย่างที่คนนิยมทำกัน แต่เน้นถึงความสมจริงอย่างที่เห็นตามธรรมชาติ "เวลาเรานึกภาพของไอซ์แลนด์ เรามักจะนึกถึงภาพภูเขาไฟรกร้างไร้ชีวิต ธารน้ำแข็งที่ไหลผ่านกลางหุบเขาสลับซับซ้อน หรือลำธารและน้ำตกสีสันสดใสราวสรวงสวรรค์ขึ้นมาโดยฉับพลัน แต่ผมคิดว่าการมุ่งหน้าสู่สถานที่แห่งหน่งด้วยความสงสัยใคร่รู้และไม่ตกหลุมพรางของภาพที่เรามีอยู่เดิมของสถานที่แห่งนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน”

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 87mm | 1/100 sec | F2.8 | ISO 320

เมืองท่าอันคึกคักอันฉากหลังเป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24mm | 1/10 sec | F9 | ISO 80

ธรรมชาติสำแดงพลัง

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24mm | 1/160 sec | F5 | ISO 250

ช่วงเวลาแห่งความสงบระหว่างชมทะเลสาบกลางหุบเขาสูง

หาสมดุลสำหรับการเดินทาง

การเลือกกล้องและเลนส์ที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำได้ยากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ James ในทริปนี้ "ผมคิดว่าช่างภาพแต่ละคนล้วนแตกต่างกันและต่างต้องคำนึงถึงความจำเป็นเฉพาะตัวของตัวเอง สำหรับผม ผมค่อนข้างจะเป็นช่างภาพประเภท 'ถ่ายเรื่อยเปื่อย' และมักจะถ่ายทุก ๆ อย่างไปเรื่อย ๆ เพื่อบันทึกทุกอย่างให้ได้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้"

James จึงเลือกใช้ Alpha 7 IV เมื่อต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวกับการถ่าย Flat Lay เนื่องจากช่วงไดนามิกในขั้นการตกแต่งภาพเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ การปรับเปลี่ยนขนาดจึงเป็นเรื่องสำคัญในการทำให้การปรับแสงและเกลี่ยสีออกมากำลังดี

ประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่รอบด้านของ Sony Alpha 7 IV ช่วยเปิดโลกความสร้างสรรค์มากมายให้ James

"สถานการณ์ที่มีช่วงไดนามิกสูงมักต้องการการปรับแต่งอย่างมาก โดยเฉพาะในการคืนสมดุลสีของทิวทัศน์แสนมหัศจรรย์ตรงหน้าเรา นี่เป็นสาเหตุที่ผมเลือก Alpha 7 IV เนื่องจากกล้องนี้รองรับการถ่ายภาพแบบ 10-bit 4:2:2 และช่วยให้ผมบันทึกทุก ๆ อย่างที่ต้องการได้ทั้งในการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวกับการถ่าย Flat Lay" James บอก "นอกจากนี้ กล้องยังพร้อมที่จะรับมือกับสภาพอากาศที่ยากลำบากด้วยคุณสมบัติกันฝุ่นและกันน้ำ"

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 140mm | 1/640 sec | F5.6 | ISO 100

ความย้อนแย้งอย่างดีเลิศ: น้ำแข็งบนหินบะซอลต์ที่เกิดขึ้นจากภูเขาไฟที่ยังมีพลังในการปะทุ

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 151mm | 1/1250 sec | F4 | ISO 800

ส่วนหนึ่งในประชากรนกพัฟฟินกว่า 10 ล้านตัวที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ นับเป็น 60% ของประชากรนกพัฟฟินทั้งหมด

ในด้านเลนส์ James เลือกใช้ FE 24-70mm F2.8 GM II และ FFE 70-200mm F2.8 GM OSS II เป็นเลนส์หลักด้วยความต้องถ่ายภาพได้ครอบคลุมทุกมุม "คติประจำตัวของผมเวลาไปเยือนสถานที่แห่งใหม่คือ 'A bird in the hand is worth two in the bush.’ หมายถึง “สิบเบี้ยใกล้มือ ยี่สิบเบี้ยไกลมือ” การเดินทางแต่ละครั้งอาจเป็นประสบการณ์เพียงครั้งเดียวของชีวิต เพราะช่วงเวลาต่าง ๆ นั้นยากที่จะเกิดขึ้นซ้ำเดิมอีกครั้ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเลือกใช้เลนส์ซูมเพราะมันให้ความยืดหยุ่นและฉับไวที่มากกว่า โดยทั่วไปผมจะใช้เลนส์ไพรม์หากสถานที่นั้นเป็นที่ที่ผมเคยไปมาแล้วหรือคุ้นเคย" James เล่า

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 24mm | 1/640 sec | F5.6 | ISO 250

แสงธรรมชาติส่องทะลุเข้าสู่ถ้ำ เน้นให้เห็นพื้นผิวที่ขรุขระ

ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแบบและฉากหลัง

องค์ประกอบภาพเป็นปัจจัยที่สามารถชี้เป็นชี้ตายภาพได้ และนี่อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับมือใหม่ "ความพร่าเลือนจากโบเก้สามารถเป็นเครื่องมือที่ดีเยี่ยมในการเน้นความสำคัญของตัวแบบได้" James บอก

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 122mm | 1/3200 sec | F4.5 | ISO 1000

อยู่ใกล้กันเข้าไว้

การเปิดรูรับแสงและเพิ่มทางยาวโฟกัสจะสร้างเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตากับฉากหลังที่รกตาหรือมีสีใกล้เคียงกันเนื่องจากเป็นการช่วยเพ่งความสนใจที่องค์ประกอบและบรรยากาศ "นี่เป็นวิธีที่ดีสำหรับมือใหม่ในการจัดองค์ประกอบที่จะช่วยเสริมภาพถ่ายด้วยการใช้อุปกรณ์ที่มีให้เกิดประโยชน์ เมื่อความสามารถสูงขึ้นแล้ว เราก็สามารถหรี่รูรับแสงลงเพื่อดึงความสัมพันธ์และแนวคิดศิลป์ระหว่างตัวแบบและฉากหลังกลับมาได้"

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 46mm | 1/640 sec | F6.3 | ISO 320

ระหว่างการเดินทางกลุ่มผ่านทิวทัศน์แห่งน้ำแข็ง

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 200mm | 1/2500 sec | F3.5 | ISO 250

แม่ม้าและลูกม้าเล็มหญ้าในทุ่ง

James ยังสนับสนุนให้ช่างภาพหน้าใหม่ศึกษาการสร้างภาพยนตร์เพื่อหาแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะวิธีการที่ภาพยนตร์ใช้ ‘การโฟกัสภาพ’ หรือรายละเอียดอย่างฉากหน้า ฉากหลัง วัตถุ แนวสายตา ฝีเท้า เพื่อสร้างความหมายให้กับฉากมากกว่าการถ่ายทอดสภาพแวดล้อมตรง ๆ ตามที่เป็น "จากนั้นผู้ชมจะสามารถวาดภาพที่สมบูรณ์ขึ้นได้ด้วยจินตนาการของตัวเอง”

นอกจากนี้เขายังอ้างอิงถึงการใช้ความแตกต่างด้านองค์ประกอบในการเสริมการเล่าเรื่องอีกด้วย "การสร้างความเปลี่ยนแปลงระหว่างภาพระยะใกล้ ภาพระยะกลาง และภาพมุมกว้างเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าใจฉากนั้น ๆ ได้จะช่วยให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมไปกับเรื่องราวที่คุณพยายามจะถ่ายทอดได้ อีกทางหนึ่งคือ การรวมสององค์ประกอบที่แตกต่างกัน เช่น ตัวแบบในฉากหน้าเข้ากับฉากหลัง หรือตัวแบบที่ที่เคลื่อนไหวกับวัตถุที่อยู่นิ่ง ให้มารวมอยู่ในเฟรมเดียวกัน วิธีนี้ก็ช่วยเพิ่มความลุ่มลึกและเรื่องราวได้”

การซ้อนทับและเหนือขึ้นไป

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 53mm | 1/800 sec | F5.6 | ISO 800

หยุดยืนตะลึงงันกับน้ำตกยักใหญ่ที่ถาโถม

ภาพที่บันทึกด้วยเลนส์เทเลโฟโต้นั้นจะพุ่งความสนใจชัดเจนกว่า ครอบคลุมระยะทางที่ไกล และให้ความรู้สึกอัดแน่น คุณสมบัตินี้สามารถใช้ขยายภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นของไอซ์แลนด์ได้ เปลี่ยนธารน้ำแข็ง ภูเขา ถนน และชายฝั่งที่มีความสูงและระยะห่างแตกต่างกันมารวมกันอยู๋ในกรอบที่กะทัดรัดกรอบเดียว เกิดเป็นภาพถ่ายที่ซับซ้อนและดูเปี่ยมล้น “การสังเกตและใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบในฉากหน้า ฉากกลาง และฉากหลังของสถานที่จะช่วยให้คุณค้นพบมุมมองที่มีเอกลักษณ์มากมายในระหว่างการเดินทางของคุณ”

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 125mm | 1/1600 sec | F4 | ISO 160

ทิวทัศน์ประจำวันของเมืองในนอร์เวย์

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 194mm | 1/1000 sec | F4 | ISO 100

บ้านพร้อมทิวทัศน์

แม้เลนส์เทเลโฟโต้จะมีมุมมองภาพที่แคบ แต่ James ย้ำว่านี่ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ได้จะน้อยลง กลับกันยังอาจช่วยให้เราทำอะไรได้มากขึ้นอีกด้วย “แนวทางที่ผมมักใช้หลีกเลี่ยงองค์ประกอบที่จะแทรกแซงจุดสนใจของภาพคือการใช้เลนส์เทเลโฟโต้ นอกจากนี้ เมื่อเราใช้ประโยชน์จากสีหลักเดียวกันหรือการมีเส้นที่ทอดยาวอยู่ในภาพ ผู้ชมก็จะเกิดความรู้สึกถึงทุ่งหญ้าหรือหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ทอดยาวไปไกลหลังอาณาเขตของกรอบภาพ สร้างความรู้สึกลึกลับให้เพิ่มขึ้นมาในสถานที่

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 146mm | 1/640 sec | F9 | ISO 320

เดินป่าฝ่าพื้นที่กว้างใหญ่

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 70mm | 1/4000 sec | F4.5 | ISO 250

ท่องไปตามถนนที่ทอดยาวทั่วไอซ์แลนด์

หนึ่งคำแนะนำสุดท้ายจาก James ถึงช่างภาพนักเดินทางหน้าใหม่คือ การพัฒนามุมมองของตัวเองในด้านภาพถ่ายอยู่เสมอ เขาใช้มือสร้างกรอบสำหรับช่วงทางยาวโฟกัสทั่ว ๆ ไปหลากหลายระยะ (เช่น 24 มม. 35 มม. 50 มม. 70 มม.) หรือช่องมองภาพของกล้องอยู่บ่อยครั้ง “หลาย ๆ สิ่งอาจดูธรรมดาเมื่อมองด้วยตาเปล่า แต่เมื่อคุณมีความตระหนักและสังเกตพื้นที่รอบตัวของคุณ คุณจะเริ่มพบว่ามีองค์ประกอบภาพมากมายให้คุณค้นพบทุกหนแห่ง”

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Full Frame Hybrid Camera

FE 24-70mm F2.8 GM II

G Master Standard Zoom Lens for Full Frame

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

G Master Telephoto Zoom Lens for Full Frame

Sony Alpha Traveller

Featured

Sony Alpha Traveller

ค้นหาให้มากขึ้น

Article Theme

นก/สัตว์ป่า

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

การท่องเที่ยว

Bringing to Light Osaka’s Hidden Marvels with Choi Woo Keun | Alpha 1 | Alpha Traveller

charmane — Mon, 06 Nov 2023 07:31:21 +0000

เผยความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ของเมืองโอซาก้าให้เฉิดฉายกับ Choi Woo Keun | Alpha 1 | Alpha Traveller

charmane Mon, 11/06/2023 - 13:01

Article Categories

แนะนำ

Body Category

Lens Category

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Choi Woo Keun เดินทางไปโอซาก้าเพื่อบันทึกภาพความงามดุจอัญมณีที่ซุกซ่อนอยู่ทุกตรอกซอกซอยของเมือง

ภาพวาดแผนที่ของเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

ความละเอียดและความเร็ว คุณภาพของภาพที่ท่วมท้น AF ที่เหนือกว่า ทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์ของกล้องฟูลเฟรมที่พลิกความต้องการของช่างภาพไปจากเดิม Sony Alpha 1 ได้สร้างมาตรฐานใหม่หมดให้กับนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่อย่างอาจหาญ และนั่นคือสิ่งที่ดึงดูด Choi Woo Keun (@spookylens) เข้ามา สำหรับ Choi แล้ว การถ่ายภาพไม่ใช่เพียงตัวเลือกอาชีพของเขา แต่เป็นความปรารถนาของชีวิต Choi ใช้เวลาของเขากับการถ่ายภาพธรรมชาติและทิวทัศน์เมืองที่สวยงามน่าตื่นตะลึง เป็นธรรมชาติที่เส้นทางนี้จะนำพาเขาให้ก้าวออกสู่โลกกว้างเพื่อเก็บเกี่ยวความงดงามมาถ่ายทอดผ่านมุมมองของเขา รัดเข็มขัดของคุณให้แน่นแล้วเราจะออกเดินทางไปกับหนึ่งในช่างภาพดาวรุ่งขอเกาหลีใต้เพื่อมุ่งสู่มหานครอันกว้างใหญ่อย่างโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

Alpha 1 | FE 16-35mm F2.8 GM | 35mm | 1/20 sec | F2.8 | ISO 1000

ตรอกอันสว่างไสวของย่านนัมบะ

"ถึงผมจะไม่เคยมาโอซาก้ามาก่อน แต่เมืองนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่พิเศษในใจผม ไม่ใช่แค่เพราะที่นี่เป็นมหานครชื่อดังระดับโลก แต่เพราะการ์ตูนอนิเมะที่ผมได้ดูมาตลอดในวัยเด็ก ตอนที่ผมเริ่มออกเดินทางในโปรเจกต์นี้ ผมมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจรายละเอียดที่แตกต่างและกรอบความคิดของเมืองนี้ให้ได้อย่างลึกซึ้ง และผมจับจ้องไปที่การสร้างบรรยาศของแสงไฟในการถ่ายทอดบางสิ่งที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย" เขาเล่า

ซึมซับทิวทัศน์

Alpha 1 | FE 16-35mm F2.8 GM | 22mm | 1/320 sec | F8 | ISO 100

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ในวันที่แดดจ้า ฟ้าใส ก่อนความอึกทึกวุ่นวายในยามเย็นจะเริ่มขึ้น

สำหรับ Choi แล้ว เส้นทางสู่โอซาก้าเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างสั้นและตรงไปตรงมา "มีสายการบินจำนวนมากที่เสนอทางเลือกเที่ยวบินมากมายระหว่างสนามบินอินชอนและกิมโป กรณีของผม ผมเลือกที่จะบินจากโซล ซึ่งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง จากนั้น ผมโดยสารรถไฟ 'Rapi:t' ที่ได้รับรางวัล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกสบายและความเร็ว เพื่อมุ่งหน้าสู่ย่านใจกลางเมือง นี่นับเป็นประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์มาก และดีไซน์โลกอนาคตสไตล์ย้อนยุคของรถไฟขบวนนี้ก็นับว่าเป็นความสวยงามที่ผมรู้สึกชอบมาก ๆ"

Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 70mm | 1/400 sec | F5.6 | ISO 100

ขอบฟ้ากับหอคอยสึเทนคาคุสมัยใหม่ที่ดูโปร่งตา

Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 119mm | 1/800 sec | F2.8 | ISO 100

ชิงช้าสวรรค์เทมโปซันผ่านแมกไม้เพียงแวบเดียว

เมื่อมาถึงโอซาก้า เราก็เหลือแค่ต้องใช้เวลาสำรวจตัวเมืองเพื่อหาสถานที่ที่อยู่นอกเส้นทางโดยทั่วไปของนักท่องเที่ยว "เวลาที่ผมมาถึงเมืองใหม่ ๆ สัญชาตญาณแรกของผมคือ การลัดเลาะไปให้ทั่วเมืองก่อนเสมอ จะด้วยการเดินหรือรถสาธารณะก็ได้ วิธีนี้ช่วยให้ผมคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของที่แห่งนั้น โอซาก้าเองก็ไม่ต่างกัน และทั้งการเดินและการใช้รถไฟใต้ดินก็ช่วยให้ผมค้นพบเพชรน้ำงามและจุดถ่ายภาพมากมายที่กระจายอยู่ทุกแห่ง โดยเฉพาะหอชมวิวตึกซาคิชิมะและชิงช้าสวรรค์เทมโปซันซึ่งทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบภาพที่น่าสนใจคอยเติมคุณภาพความงามให้ภาพของผม นอกจากนี้ผมยังพบสภาพแสงที่สวยงามและอยู่เหนือความคาดหมายซึ่งเติมความลุ่มลึกและอารมณ์บางอย่างที่สอดค้อลงกันกับความรู้สึกของผมเองในห้วงเวลาที่อยู่ตรงนั้นให้กับภาพของผม"

Alpha 1 | FE 16-35mm F2.8 GM | 16mm | 1/20 sec | F5.6 | ISO 400

บันทึกแสงทองของโอซาก้าจากหอชมวิวตึกซาคิชิมะ

ภาพหนึ่งที่น่าจดจำเป็นพิเศษสำหรับ Choi คือ ทิวทัศน์เมืองขณะพระอาทิตย์ตกที่ถ่ายจากหอชมวิวตึกซาคิชิมะ "ในตอนแรก ผมคาดหวังว่าจะถ่ายภาพของทั้งเมืองในเวลากลางคืน แต่ก็ต้องผิดหวังที่ผมไม่สามารถหามุมภาพที่จะมีเอกลักษณ์มากกว่าภาพในโบรชัวร์ท่องเที่ยวหรือภาพที่นักท่องเที่ยวทั่วไปถ่ายได้ ผมต้องการอะไรที่มีความพิเศษมากขึ้น ในจังหวะผมกำลังจะถอดใจยอมแพ้นั้นเอง ผมก็สังเกตเห็นประกายแสงที่เจิดจ้าของพระอาทิตย์ที่ประกอบกับโครงสร้างต่าง ๆ เกิดเป็นรูปแบบลวดลายและเงามืดที่น่าหลงใหล นั่นเป็นทิวทัศน์ที่น่าตะลึงที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และผมคิดว่าผมสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้ในภาพนี้"

ภาพถ่ายที่น่าทึ่งด้วยอุปกรณ์ที่ดีที่สุด

Choi ใช้ Alpha 1 เป็นกล้องหลักเพราะช่วยให้ได้ทั้งวิดีโอและภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงสุดได้ "ประสิทธิภาพการถ่ายต่อเนื่องและฟีเจอร์ AF ที่แม่นยำถือเป็นตัวช่วยที่ล้ำค่าในการบันทึกช่วงเวลาที่เกิดขึ้นฉับพลันให้ทันท่วงทีที่ทุกอย่างเกิดขึ้น เซ็นเซอร์ 50 ล้านพิกเซลบวกกับชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์และการซิงค์ความเร็วสูงช่วยให้ผมสามารถบันทึกภาพทิวทัศน์ความละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องทิ้งรายละเอียดอะไรให้อยู่นอกโฟกัส บางครั้งผมจะถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 120p หรือความละเอียด 8K ซึ่งกล้อง Alpha 1 สามารถรับมือได้อย่างไร้ที่ติ" เขาอธิบาย

Alpha 1 | FE 16-35mm F2.8 GM | 35mm | 1/80 sec | F6.3 | ISO 100

ทอดน่องตามทางเดินในเทนโนจิ

เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM และ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ถือเป็นตัวเลือกคู่ใจของเขาในการถ่ายภาพการท่องเที่ยว "เลนส์มุมกว้างนั้นอาจมีการเสียคุณภาพของพื้นที่รอบตัวและความบิดเพี้ยนในภาพได้ แต่โชคดีที่เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM มีการจัดการปัญหาเหล่านี้ไว้แล้วและยังทนทานต่อการถ่ายภาพในสภาวะสมบุกสมบันได้อีกด้วย ในอีกทางหนึ่ง เลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II นั้นมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้ามากและสามารถรักษาคุณภาพของภาพถ่ายไว้ได้ตลอดช่วงการซูม"

เปลี่ยนแรงปรารถนาเป็นความจริง

Alpha 1 | FE 16-35mm F2.8 GM | 24mm | 1/20 sec | F5.6 | ISO 160

ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นระหว่างทางสู่หอชมวิวซาคิชิมะ

Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 112mm | 1/20 sec | F2.8 | ISO 1600

ทิวทัศน์ราตรีที่งดงามของโอซาก้าซึ่งมีวัดชิเทนโนจิอยู่ใจกลาง

สำหรับ Choi แล้ว การถ่ายภาพคือการแบ่งปันช่วงเวลาล้ำค่าที่ปลุกเร้าอารมณ์ที่ลึกล้ำ เขามักพูดถึงความรู้สึกที่อยากให้คนที่ได้สัมผัสกับงานของเขารู้สึกราวกับเหมือนถูกพาไปอยู่ในสถานที่นั้น ๆ ในภาพถ่าย พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาอยากให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนั้นไปกับเขา "การแสดงผลงานเดี่ยวของผมครั้งสุดท้ายคือเมื่อปี 2018 และนับจากนั้นมา ผมก็ไม่สามารถจัดงานแสดงใหม่ได้เลยด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งรวมถึงภาวะการระบาดด้วย ทว่าตอนนี้ผมกำลังวางแผนจะจัดนิทรรศการสาธารณะครั้งใหม่ ซึ่งผมจะแสดงให้เห็นเสน่ห์ที่แท้จริงของภาพถ่ายการเดินทาง โดยหวังว่าทุกคนจะมาร่วมเดินทางไปด้วยกันได้" Choi บอก

Alpha 1 | FE 16-35mm F2.8 GM | 28mm | 1/320 sec | F6.3 | ISO 100

ระเบิดสีสันกับชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ HEP Five Ferris Wheel

สำหรับใครที่คิดจะบันทึกช่วงเวลาการเดินทางดี ๆ ไว้ในกล้อง คำแนะนำจาก Choi คือ ให้เราสร้างความแตกต่างให้สไตล์ของเรา "การทำอะไรโดยเจตนานั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมกับผลงานของคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะผ่านนิทรรศการหรือสื่ออื่น ๆ เพื่อทำให้ความสร้างสรรค์ของคุณเองสูบฉีด สำหรับผม เรื่องนี้เป็นหลักสำคัญพื้นฐานในการที่ผมใช้แสงเป็นเครื่องมือในการแสดงตัวตนและตัวแบบผ่านภาพถ่าย

คำแนะนำที่สองของเขาคือ ช่างภาพควรศึกษาข้อมูลที่หมายของตนให้ปรุโปร่ง เพราะการทำตัวเป็นส่วนหนึ่งในสถานที่ใหม่ให้ได้อย่างแท้จริงนั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของการบันทึกความรู้สึกของแต่ละเมือง "สำหรับผม Google Maps ถือเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการสำรวจทิศทางแสงธรรมชาติและสภาวะแสงในแต่ละช่วงเวลา โดยให้ข้อมูลโดยละเอียดของแต่ละท้องที่ผ่านฟีเจอร์ Street View ซึ่งช่วยให้ผมวางแผนรับมือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ระหว่างวางแผนการถ่ายภาพ"

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 1

Full Frame Camera with Superb Resolution & Speed

Alpha 7R V

Full Frame High Resolution Camera with AI processing

FE 16-35mm F2.8 GM

G Master Wide Zoom Lens for Full Frame

FE 50mm F1.2 GM

G Master Standard Prime Lens for Full Frame

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

G Master Telephoto Zoom Lens for Full Frame

Sony Alpha Traveller

Featured

Sony Alpha Traveller

ค้นหาให้มากขึ้น

Article Theme

สถาปัตยกรรม

ทิวทัศน์เมือง/ทิวทัศน์ยามค่ำคืน

การถ่ายภาพสตรีท

การท่องเที่ยว

Sony Alpha Traveller

charmane — Wed, 01 Nov 2023 05:47:47 +0000

Sony Alpha Traveller

charmane Wed, 11/01/2023 - 11:17

Article Categories

แนะนำ

Article Theme

การท่องเที่ยว

Revelling In the Majestic Sights of the Gobi Desert with Bong Hasung | Alpha 7 IV | Alpha Traveller

charmane — Wed, 01 Nov 2023 04:58:34 +0000

ตื่นตะลึงกับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของทะเลทรายโกบีกับ Bong Hasung | Alpha 7 IV | Alpha Traveller

charmane Wed, 11/01/2023 - 10:28

Article Categories

แนะนำ

Body Category

Alpha 7 IV

Lens Category

FE 16-35mm F2.8 GM

FE 24-70mm F2.8 GM II

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Bong Hasung ออกเดินทางสู่ความรกร้างเพื่อบันทึกทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ของทะเลทรายโกบี

ภาพวาดแผนที่ของมองโกเลีย (© Mapbox, © OpenStreetMap)

ความละเอียดที่สูงขึ้น ระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่รวดเร็ว และการตั้งค่า Creative Look ทำให้ Sony Alpha 7 IV เป็นกล้องที่สมบูรณ์แบบในการเปลี่ยนภาพถ่ายง่าย ๆ ให้เป็นผลงานศิลปะชิ้นเอก สำหรับช่างภาพ Bong Hasung (@bongtographer_) แล้ว ฟีเจอร์เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่เตะตาช่างภาพนักเดินทางอย่างมาก Bong Hasung ออกเดินทางสู่การผจญภัยอันแสนตราตรึงพร้อม Alpha 7 IV ข้างกาย เพื่อบันทึกภาพทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ไพศาลของทะเลทรายโกบีในมองโกเลีย

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 200mm | 1/400 sec | F8 | ISO 100

ทะเลสาบออกี (Ögii Lake) สันเขา และบ้านเรือน

จากที่เคยเหยียบย่างมองโกเลียมาแล้วสองครั้ง Bong รู้ดีว่าเขาอยากอวดอะไรให้ผู้ชมได้เห็น "ที่แห่งนี้มีอาคารและวัตถุต่าง ๆ อยู่ไม่มาก ผมจึงอยากโฟกัสที่ความงดงามตามธรรมชาติและความยิ่งใหญ่ของพื้นที่กึ่งแห้งแล้งของทะเลทรายโกบี ซึ่งรวมถึงการถ่ายภาพทุ่งหญ้าและผืนทรายอันกว้างใหญ่ไปจนถึงมวลหมู่ดาวอันสว่างไสวของทางช้างเผือก" Bong เล่า อ่านต่อเพื่อทำความรู้จักทิศทางความสร้างสรรค์ของ Bong ในการวาดกรอบให้ทะเลทรายโกบี

เริ่มต้นจากคนแปลกหน้าและจากลาอย่างมิตรสหาย

Alpha 7 IV | FE 16-35mm F2.8 GM | 16mm | 13 secs | F2.8 | ISO 5000

ตั้งแคมป์ใต้ทางช้างเผือก

ระหว่างช่วงการวางแผน Bong รู้สึกว่าวิธีเดินทางฝ่าทะเลทรายโกบีที่ดีที่สุดคือการเดินทางเป็นกลุ่ม "ผมติดต่อกับคนที่มีความคิดคล้ายกันที่สนใจจะไปเที่ยวชมมองโกเลียผ่านทาง Instagram ถึงแม้ตอนแรกเราจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน แต่เรามีความรักในการถ่ายภาพและความปรารถนาที่จะสัมผัสความสงบเงียบอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลทรายโกบีเหมือน ๆ กัน เราเลือกที่จะเดินทางผ่านเส้นทางศูนย์กลาง เนื่องจากนี่เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าอิ่มเอมและมีอะไรให้ชมมากมายระหว่างเส้นทาง" เขาบอก

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 70mm | 1/50 sec | F8 | ISO 50

หน้าผาเพลิงบายันซัก (Bayanzag)

เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่แท้จริงยิ่งขึ้น Bong และเพื่อนร่วมทางเลือกที่จะเดินทางด้วยรถตู้ที่ผลิตในรัสเซียซึ่งรู้จักกันในชื่อ Furgon "Furgon ทำหน้าที่เป็นเหมือนฐานชั่วคราวของพวกเรา ช่วยนำทางให้เราอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการสำรวจภูมิประเทศอันรกร้างของมองโกเลีย อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถบันทึกภาพทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจของทะเลทรายได้ นอกจากนั้น การโดยสารรถคันนี้ยังเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมาก ทำให้เราได้มีกิจกรรมร่วมกันและสนิทกันมากขึ้นระหว่างที่เราออกเดินทางไปในที่ที่ไม่รู้จัก"

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 70mm | 1/160 sec | F4 | ISO 1600

เงาร่างของนักฝันในบายันซัก

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II | 130mm | 1/500 sec | F4 | ISO 640

การรวมตัวของเพื่อนฝูงที่ไม่อาจลืมเลือน

ในบรรดารูปที่ถ่ายมาทั้งหมด สองภาพที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพซิลลูเอทของเขากับเพื่อนร่วมเดินทางที่ถ่ายอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังลับของฟ้า "ภาพแรกเป็นภาพของผมเองที่กำลังโพสต์ท่าประจำตัวโดยมีพระจันทร์เสี้ยวเป็นฉากหลัง หลังจากถ่ายภาพนี้ ผมสังเกตเห็นเพื่อนร่วมเดินทางกำลังเดินเข้าหาท้องฟ้าสีส้มอ่อน มันเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่ผมไม่อยากปล่อยโอกาสการถ่ายภาพนี้ให้หลุดมือไป ท้ายที่สุดแล้ว ผมรวบรวมทุก ๆ คนจากกลุ่มอื่น ๆ มานั่งรวมกันก่อนที่จะถ่ายภาพทุกคนพร้อมไปกับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า พอมองย้อนไปตอนนี้ ผมตระหนักได้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้อยู่ตรงนั้น ในตอนนั้น กับคนเหล่านั้น มันเป็นความประจวบเหมาะที่ทุกอย่างบังเอิญมาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์ลงตัว"

ชุดอุปกรณ์ที่สมบูรณ์

Alpha 7 IV | FE 16-35mm F2.8 GM | 16mm | 13 secs | F2.8 | ISO 4000

ช่วงเวลาโรแมนติกที่นักเดินทางต่างแหงนหน้ามองทางช้างเผือก

Alpha 7 IV | FE 16-35mm F2.8 GM | 16mm | 13 secs | F2.8 | ISO 5000

ไขว่คว้าหาดวงดาว

การเลือกใช้ Sony Alpha 7 IV ของ Bong เป็นเพราะฟีเจอร์มากมายในตัวกล้องที่สืบทอดลักษณะเด่นมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Alpha 7 III แล้วยกระดับไปอีกขั้น "หน้าจอ LCD พับได้ช่วยให้ผมมองเห็นตัวแบบได้ในเวลาที่ถ่ายภาพในมุมสูงหรือต่ำ และยังสว่างใสมากพอที่จะมองเห็นแม้ในช่วงกลางวันที่มีแสงจ้า และด้วยฟีเจอร์ AF ที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ก็ไม่มีรายละเอียดใดที่จะหลุดโฟกัสไปได้ โดยเฉพาะการตั้งค่า Creative Look ที่ช่วยให้ผมเพิ่มรายละเอียดสีสันอีกเล็กน้อยให้กับภาพหรือเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของภาพถ่ายได้" Bong อธิบาย

Alpha 7 IV | FE 16-35mm F2.8 GM | 16mm | 13 secs | F2.8 | ISO 5000

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากสถานีคาราวานโกบี

กล้องของเขามาพร้อมกับเลนส์ซูมหลากหลายแบบเพื่อรองรับสถานการณ์การถ่ายภาพแบบต่าง ๆ "สำหรับการถ่ายภาพทั่วไป ส่วนใหญ่ผมใช้เลนส์ FE 24-70mm F2.8 GM II ซึ่งมีวงแหวนรูรับแสงใหม่และความละเอียดที่ดีขึ้นเพื่อภาพที่ชัดใสยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ผมยังพกเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM มาด้วย ซึ่งอเนกประสงค์มากพอที่จะถ่ายภาพที่สวยงามของทางช้างเผือกยามกลางคืน ท้ายที่สุด เลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่น่าตื่นตะลึงโดยไม่ทำให้ข้อมือผมล้า"

การเดินทางเบื้องหน้า

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 70mm | 1/1000 sec | F5.6 | ISO 1250

กระโดดลอยตัวหน้าเมฆสีเพลิงยามอาทิตย์อัสดง

แม้ความตื่นเต้นของการสำรวจมองโกเลียจะผ่านไปแล้ว Bong ก็ตั้งตารอการผจญภัยใหม่ ๆ และการได้รู้จักกับช่างภาพนักเดินทางคนอื่น ๆ ต่อ "หากจะมีสิ่งหนึ่งที่ผมสนุกด้วยมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ก็คือ การก้าวออกไปนอกคอมฟอร์ทโซนเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์อันมีเอกลักษณ์ รวมทั้งประสบการณ์การเดินทางที่น่าหวงแหน" Bong เล่า

Alpha 7 IV | FE 16-35mm F2.8 GM | 16mm | 10 secs | F2.8 | ISO 6400

ตรึงการเคลื่อนที่ของดวงดาวให้เป็นนิรันดร์ด้วยการเปิดชัตเตอร์สปีดไว้นานๆ

หนึ่งคำแนะนำที่ Bong มีให้กับช่างภาพนักเดินทางรุ่นใหม่คือ การใช้เวลาศึกษามุมที่เหมาะสม "ระหว่างการเดินทางจะมีสถานการณ์มากมายที่คุณต้องพบเจอ ก่อนกดชัตเตอร์ การศึกษาว่ามุมใดที่จะบันทึกช่วงเวลาดังกล่าวได้อย่างดีที่สุดเสียก่อนจะเป็นการดีที่สุด สำหรับผม ผมมักใช้มุมต่ำในการถ่ายภาพ เพราะในทะเลทรายนั้นแทบไม่มีอาคารหรือวัตถุใด ๆ อยู่เลย ในบางสถานการณ์ ผมจะปรับมุม เช่น ถ่ายจากเหนือพื้นดินเพื่อถ่ายทอดทิวทัศน์อันแสนมหัศจรรย์ของภูมิทัศน์อันกว้างใหญ่"

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Full Frame Hybrid Camera

FE 16-35mm F2.8 GM

G Master Wide Zoom Lens for Full Frame

FE 24-70mm F2.8 GM II

G Master Standard Zoom Lens for Full Frame

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

G Master Telephoto Zoom Lens for Full Frame

Sony Alpha Traveller

Featured

Sony Alpha Traveller

ค้นหาให้มากขึ้น

Article Theme

ดวงดาว

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

การท่องเที่ยว

Capturing the Thrill of the Path Less Travelled with Bombyul | Alpha 7 IV | Alpha Traveller

charmane — Fri, 22 Sep 2023 09:27:30 +0000

บันทึกความตื่นเต้นของเส้นทางที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส กับ Bombyul | Alpha 7 IV | Alpha Traveller

charmane Fri, 09/22/2023 - 14:57

Article Categories

แนะนำ

Body Category

Alpha 7 IV

Lens Category

FE 50mm F1.2 GM

FE 24-105mm F4 G OSS

FE 24-70mm F2.8 GM II

Bombyul มุ่งหน้าสู่โปรตุเกสเพื่อสัมผัสแง่มุมชีวิตประจำวันที่นักท่องเที่ยวทั่วไปอาจมองข้าม

ภาพวาดแผนที่ของโปรตุเกส (© Mapbox, © OpenStreetMap)

ช่างภาพนักเดินทาง Bombyul (@bombyul) ปรารถนาจะบันทึกแง่มุมสงบและรื่นรมย์ของที่หมายวันหยุดในดวงใจของเธอ ผลงานของเธอเผยให้เราเห็นกิจวัตรประจำวันของชุมชนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมากกว่าการโฟกัสกับสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 64mm | 1/125 sec | F22 | ISO 4000

อาทิตย์อัสดงเหนือเมืองปอร์โต

ในโปรเจกต์ภาพถ่ายท่องเที่ยวนี้ Bombyul รู้สึกดึงดูดกับตรอกซอกซอยของโปรตุเกสที่เธอมองเป็นผืนผ้าใบให้กิจกรรมประจำวันของคนท้องที่ "โปรตุเกสเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างไม่อาจห้ามใจให้คุณต้องหวนกลับมาใหม่อีกครั้ง" เธอเล่า เรานั่งลงพูดคุยกับ Bombyul ว่าทำอย่างไรเธอจึงสามารถถ่ายทอดภาพถ่ายที่เรียบง่ายแต่น่าจดจำระหว่างการท่องเที่ยวจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดสองสามแห่งเหล่านี้ของยุโรปออกมาได้

บันทึกสองโฉมหน้าของโปรตุเกส

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 51mm | 1/250 sec | F8 | ISO 100

บรรยากาศอันคึกคักของกรุงลิสบอน

Alpha 7 IV | FE 24-70mm F2.8 GM II | 48mm | 1/250 sec | F4 | ISO 125

ผู้คนใช้เวลาช่วงบ่ายอย่างเพลิดเพลินท่ามกลางสีสันอันสดใสของปอร์โต

ตลอดทั้งการถ่าย Bombyul ต้องการถ่ายทอดความตื่นเต้นของการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นในสถานที่ใหม่ที่ไม่เคยเยือนหรือสถานที่เดิมอันแสนคุ้นเคย "ตารางเวลาของฉันอัดแน่นด้วยกิจกรรมจำนวนเหลือล้น เพราะฉันต้องการบันทึกช่วงเวลาพิเศษที่เกิดขึ้นในวันธรรมดา เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาเยือนกรุงลิสบอน ภาพแต่ละช็อตจึงถ่ายทอดความรู้สึกตื่นเต้นของการสำรวจที่หมายแห่งใหม่ สำหรับเมืองปอร์โตนั้น ฉันเคยมาเที่ยวแล้วหลายครั้ง เลยอยากจะให้ผู้ชมได้สัมผัสความรู้สึกที่สงบและรื่นรมย์" เธอบอก

Alpha 7 IV | FE 24-105mm F4 G OSS | 60mm | 1/200 sec | F6.3 | ISO 100

สถานีรถไฟเซาเบนโต (São Bento Station) ของเมืองปอร์โตและเมฆที่งดงามจับใจบนเส้นทางขึ้นเขา

Alpha 7 IV | FE 24-105mm F4 G OSS | 74mm | 1/80 sec | F5.6 | ISO 400

รถรางสีเหลือง เอกลักษณ์ของกรุงลิสบอน

เนื่องจากเที่ยวบินตรงสู่โปรตุเกสมีน้อย Bombyul จึงต้องเปลี่ยนเครื่องจากเมืองใกล้เคียงเพื่อมาที่นี่ "นักท่องเที่ยวมักเดินทางผ่านเมืองใหญ่อื่น ๆ ของยุโรปก่อนมาเที่ยวโปรตุเกส ในกรณีของฉัน ฉันบินจากปารีสมาลิสบอนแล้วใช้รถไฟเดินทางสู่เมืองอื่น ๆ ของโปรตุเกส คำแนะนำของฉันถึงช่างภาพที่วางแผนจะบินมาที่นี่แต่ไม่สามารถหาเที่ยวบินตรงมาได้คือ การรวมตารางการเดินทางเข้ากับประเทศอื่น ๆ วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถบันทึกภาพได้หลากหลายรูปแบบ"

ความมหัศจรรย์อันคุ้นเคย

Alpha 7 IV | FE 24-105mm F4 G OSS | 78mm | 1/320 sec | F5.6 | ISO 100

ทิวทัศน์ของกรุงลิสบอนจากจุดชมวิวในช่วงบ่าย

ระหว่างการเดินทาง เธอสามารถจะพบความงดงามได้ในแทบทุกสถานที่ที่คุ้นเคย "ฉันมักจะไปเที่ยวชมสถานที่เดิม ๆ แล้วใช้เวลาถ่ายภาพอยู่ที่นั่น วิธีการนี้อาจดูสวนทางกับความรู้สึก แต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นวิธีสร้างความผูกพันกับเมืองและสร้างความทรงจำอย่างยืนยงที่วิเศษมาก วิธีนี้ยังช่วยให้ฉันเพิ่มความหลากหลายในคอลเลกชันภาพถ่ายที่ช่วยให้เข้าใจความชอบในการเดินทางของตัวเองมากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างมุมมองใหม่ให้กับการถ่ายภาพด้วย" เธอกล่าว

Alpha 7 IV | FE 50mm F1.2 GM | 50mm | 1/50 sec | F2.5 | ISO 2500

ทิวทัศน์ค่ำคืนของแม่น้ำโดรู (Douro River)

ภาพที่น่าจดจำที่สุดของเธอคือภาพเส้นขอบฟ้าของกรุงลิสบอนที่ถ่ายในวันเมฆครึ้ม "มีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่แสงแดดสามารถส่องทะลุผ่านก้อนเมฆลงมาได้ในระหว่างที่ฉันถ่ายภาพ ทำให้สามารถบันทึกภาพได้ทั้งท้องฟ้าที่มืดครึ้มและลำแสงของดวงอาทิตย์ เรือยอชท์ที่อยู่ไกลออกไปนั้นพิเศษมาก และฉันพอใจมากกับการผสมผสานของสีที่มาจากหลังคาสีส้มของกรุงลิสบอน ท้องฟ้าครึ้มเมฆ แสงแดด และชายฝั่ง"

อุปกรณ์สมบูรณ์แบบสำหรับช่างภาพนักเดินทาง

Alpha 7 IV | FE 24-105mm F4 G OSS | 68mm | 1/80 sec | F5.6 | ISO 2500

สีสันจัดจ้านของเมืองปอร์โตยามโพล้เพล้

กล้องที่ Bombyul เลือกใช้คือ Alpha 7 IV เนื่องจากมันช่วยให้เธอได้ผลลัพธ์ที่ดีเลิศทั้งการถ่ายทั้งภาพและวิดีโอคุณภาพสูง "Alpha 7 IV เป็นการพัฒนาขึ้นอย่างสำคัญมากจาก M3 ซึ่งเป็นกล้องตัวเก่าของฉัน โดยเฉพาะหน้าจอ LCD พับได้ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการถ่ายภาพแนวตั้ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเอกลักษณ์ของฉัน ฟีเจอร์ Creative Look ยังช่วยให้สามารถกำหนดอารมณ์ได้ตามสภาพแวดล้อมการถ่ายแล้วยังสะดวกสำหรับคนที่มีปัญหากับการแก้ไขสีอีกด้วย" Bombyul อธิบาย

การใช้เลนส์โฟกัสระยะไกลช่วยให้เธอสามารถจัดองค์ประกอบภาพให้มีรายละเอียดและความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้มากขึ้น "ฉันเคยใช้เลนส์ FE 24-105mm F4 G OSS เป็นหลัก แต่เปลี่ยนมาใช้เลนส์ FE 24-70mm F2.8 GM II แทนด้วยมุมมองเลนส์เทเลโฟโต้ที่ได้ เวลาที่ใช้เลนส์นี้ คุณภาพของรูปนั้นไม่ลดลงเลยแม้ในระหว่างการครอป ยิ่งไปกว่านั้น น้ำหนักที่ลดลงยังทำให้ฉันพกพาได้ง่ายขึ้นระหว่างที่เดินเที่ยวและดื่มด่ำกับทิวทัศน์ นอกจากนี้ยังมีเลนส์ FE 50mm F1.2 GM ซึ่งใช้ถ่ายภาพบรรยากาศการแสดงต่าง ๆ ในสภาวะแสงน้อย"

มองไปเหนือขอบฟ้า

สำหรับ Bombyul แล้ว สิ่งสำคัญสำหรับช่างภาพนักเดินทางคือ การเดินทาง ไม่ใช่จุดหมาย "ฉันตั้งตารอที่จะค้นหาความมหัศจรรย์ของการเดินทางแล้วเผยให้โลกเห็นผ่านทางภาพถ่ายของฉัน" เธอบอก

Alpha 7 IV | FE 24-105mm F4 G OSS | 64mm | 1/640 sec | F4 | ISO 100

การแสดงเปิดหมวกริมชายฝั่งที่กรุงลิสบอน

คำแนะนำหนึ่งที่เธอมีให้กับช่างภาพนักเดินทางรุ่นใหม่คือ การเต็มใจที่จะสำรวจสถานที่ที่คนในท้องถิ่นไปเที่ยวบ่อย ๆ "ฉันขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ให้ทุกคนเดินและใช้การขนส่งสาธารณะเมื่อทำได้ มีอะไรมากมายที่คุณจะมองเห็นเมื่อคุณผสานกลมกลืนกับผู้คนในท้องถิ่น ถ้าคุณรู้สึกว่าการค้นหาสถานที่ใหม่ ๆ เป็นเรื่องท้าทาย การใช้ Google Maps ค้นหาสถานที่ใกล้ ๆ ก็เป็นความคิดที่ดี ใครจะรู้… คุณอาจจะบังเอิญไปเจอโอกาสถ่ายภาพอันน่าตื่นตะลึงเข้าก็ได้”

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Full Frame Hybrid Camera

FE 50mm F1.2 GM

G Master Standard Prime Lens for Full Frame

FE 24-70mm F2.8 GM II

G Master Standard Zoom Lens for Full Frame

FE 24-105mm F4 G OSS

G Standard Zoom Lens for Full Frame

Sony Alpha Traveller

Featured

Sony Alpha Traveller

ค้นหาให้มากขึ้น

Article Theme

ทิวทัศน์เมือง/ทิวทัศน์ยามค่ำคืน

การถ่ายภาพสตรีท

การท่องเที่ยว

Do You Really Need a Professional Camera? If You Love Capturing Dreamy Photos in Any Environment, You Do.

charmane — Wed, 02 Aug 2023 08:55:25 +0000

จริง ๆ แล้วคุณต้องการกล้องระดับมืออาชีพหรือเปล่า หากการถ่ายภาพที่ดูงดงามชวนฝันคือสิ่งที่คุณปรารถนา คำตอบก็คือ “ใช่”

charmane Wed, 08/02/2023 - 14:25

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

เกี่ยวกับนักเขียน

ช่างภาพจากสิงคโปร์ เกาะที่มีแสงแดดเจิดจ้า Alisa Wong เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายดิจิทัลที่มีความหลงใหลในการสร้างสรรค์และรักธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การถ่ายวิดีโอ การวาดภาพ และแม้กระทั่งการเขียน ความสนใจใคร่รู้ของเธอเป็นแรงขับเคลื่อนให้เธออยากสร้างสรรค์และแบ่งปันกับโลกใบนี้อยู่เสมอ

หากไม่มีสถานที่ที่น่าสนใจ คุณอาจพบว่าการถ่ายภาพที่ดีนั้นมีความท้าทายอยู่เหมือนกัน

แต่ไม่เป็นไร, เพราะฉันก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน จนมาค้นพบความอัศจรรย์ของการติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อขยายมุมมองสร้างสรรค์ของฉัน ฉันชอบโบเก้ ซึ่งเป็นคำศัพท์ทางเทคนิคที่หลายคนรู้จักในลักษณะฉากหลังที่เบลอ หากคุณกำลังต้องการการถ่ายภาพสวย ๆ ในทุกสภาพแวดล้อม การถ่ายภาพมาโครชวนฝัน หรือการถ่ายภาพระยะใกล้พร้อมโบเก้งาม ๆ โดยส่วนตัวแล้ว กล้องและเลนส์ Sony Alpha เป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ทำให้ฉันสร้างสิ่งนี้ออกมา

วันนี้ ลองมาดูกันว่า การใช้การตั้งค่าเฉพาะของ Sony Alpha เพื่อสร้างภาพชวนฝันคุณภาพสูงในสถานที่ใดก็สามารถทำได้ แม้แต่ในห้องของเราเอง เราจะใช้กล้อง Alpha 7 IV กับเลนส์ FE 20-70mm F4 G เพื่อทำการทดสอบครั้งนี้กัน

แกลเลอรี

ภาพเหล่านี้ถ่ายในห้องนอนฉันเอง โดยใช้พวกต้นไม้ต่าง ๆ ที่อยู่ในบ้าน

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70mm | 1/80 sec | F8 | ISO 800

ภาพระยะใกล้สวย ๆ ของต้นแนบอุรา (Scindapsus Pictus)

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70mm | 1/80 sec | F4 | ISO 640

ภาพระยะใกล้ของใบตีนตุ๊กแกที่บอบบาง

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 69mm | 1/80 sec | F4 | ISO 250

ภาพระยะใกล้ของใบต้นแนบอุรา (Scindapsus Pictus)

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70mm | 1/80 sec | F4 | ISO 200

ภาพระยะใกล้ของใบตีนตุ๊กแกที่บอบบาง

Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70mm | 1/80 sec | F4 | ISO 160

ภาพระยะใกล้ของใบเฟิร์นที่สลับซับซ้อน

มอบโบเก้ที่สมจริงด้วยความยาวโฟกัสที่ยาวและรูรับแสงกว้าง

หนึ่งในเอฟเฟกต์ที่นิยมใช้มากที่สุดในการถ่ายภาพก็คือ โบเก้ที่งดงามชวนฝัน ซึ่งจะทำให้ตัวแบบแยกออกจากฉากหลังอย่างลงตัว แล้วดึงความสนใจของผู้ชมไปที่จุดโฟกัสของภาพ

โบเก้ออปติคอล: สร้างขึ้นจากคุณสมบัติทางออปติคอลของเลนส์ที่เกิดขึ้นจากระยะห่างระหว่างวัตถุที่สัมพันธ์กันและกล้องถ่ายภาพ
โบเก้ดิจิตอล: สร้างขึ้นโดยซอฟต์แวร์จำลองระยะห่างระหว่างวัตถุกับภาพถ่าย

กล้องในตระกูล Sony Alpha ทำให้เราใช้เลนส์คุณภาพระดับมือโปรพร้อมความยาวโฟกัสที่ยาวและรูรับแสงที่กว้าง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างโบเก้ที่นุ่มนวล งดงามสมจริง ภาพต่อไปนี้ เราจะมาดูกันว่า เอฟเฟกต์โบเก้ที่สวยเฉียบยิ่งขึ้นทำให้ง่ายต่อการถ่ายภาพชวนฝันได้ ไม่ว่าพื้นหลังจะเป็นอย่างไร

ซ้าย: Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70mm | 1/80 sec | F4 | ISO 100

ภาพนี้เป็นภาพตัวอย่างของโบเก้ออปติคอลจริง ๆ กับโบเก้ดิจิตอลที่สร้างโดยใช้ซอฟต์แวร์

ซ้าย: Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 70mm | 1/80 sec | F4 | ISO 100

โบเก้ออปติคอลแท้ ๆ ไม่มีขอบที่ผิดธรรมชาติซึ่งอาจเกิดจากโบเก้ดิจิตอลในการจำลองความลึกในพื้นที่ที่ซับซ้อน (เช่น เส้นผมและขนตา) ในที่นี้ ซอฟต์แวร์ได้พยายามจำลองโบเก้ให้ออกมาสวย แต่ก็ยังมีพลาดเป็นบางจุด

ถ่ายภาพคุณภาพสูงกว่าด้วยซูมออปติคอลของแท้

กล้องที่มีซูมออปติคอลของแท้มักจะให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงกว่า

ซ้าย: Alpha 7 IV | FE 20-70mm F4 G | 63mm | 1/80 sec | F4 | ISO 125

ซูมออปติคอล: เลนส์โฟกัสโดยการเคลื่อนที่เข้าหรือแยกห่างจากกัน (เช่น จาก 20mm ถึง 70mm) ผ่านกลไกภายในที่คล้ายกับกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก ในขณะที่ภาพที่ถ่ายได้ตามเซ็นเซอร์ยังคงขนาดและรายละเอียดเดิม
ซูมดิจิทัล: ซอฟต์แวร์จะขยายและตัดภาพที่ถ่ายได้ตามเซ็นเซอร์เพื่อสร้างภาพลวงตาในการซูม แต่ภาพถ่ายอาจเริ่มแสดงจุดพิกเซลหรือภาพหลอกหากเราซูมด้วยวิธีนี้มากเกินไป

เลนส์ FE 20-70mm F4 G กับกล้อง Alpha 7 IV มีซูมออปติคอลที่หลากหลายพร้อมคุณภาพภาพที่ยอดเยี่ยม

อีกทั้งรูรับแสงที่กว้างทำให้เกิดเอฟเฟกต์โบเก้ที่งดงามและมุมมองระยะใกล้ ทำให้จัดองค์ประกอบภาพในสไตล์มินิมอลได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยให้ตัวแบบหลักเด่นชัดในภาพ พร้อมกับลดสิ่งที่ไม่สำคัญออกจากกรอบภาพ

พร้อมพิสูจน์แล้วหรือยัง

รู้สึกสนใจและพร้อมที่จะลองเพื่อสร้างบทสรุปของตัวเองแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้น ก็ถึงเวลา ลองใช้งานกล้อง Alpha แล้วล่ะ!

เผยศักยภาพในการสร้างสรรค์ด้วยอุปกรณ์ที่จะนำคุณไปสู่โลกแห่งการถ่ายภาพที่งดงามยิ่งขึ้น.

ข้อสงวนสิทธิ์: ความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้นและไม่จำเป็นต้องตรงกับมุมมองหรือความคิดเห็นขององค์กร บริษัท หรือบุคคลใด ๆ ที่ถูกกล่าวถึงในบทความนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและพิจารณาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งประกอบกัน

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Full Frame Hybrid Camera

FE 20-70mm F4 G

G Standard Zoom Lens for Full Frame

Article Theme

มาโคร/ระยะใกล้

Comforts of Home: Conveying Depth and Complexity with Bedroom Portraits

sneha — Tue, 09 May 2023 02:25:30 +0000

บ้านแสนสุข: ถ่ายทอดความลึกซึ้งและความซับซ้อนด้วยภาพถ่ายบุคคลในห้องนอน

sneha Tue, 05/09/2023 - 07:55

Article Categories

แนะนำ

FotoCandiny สำรวจความคิดสร้างสรรค์ของตนภายใต้ขอบเขตอันจำกัดของห้องนอนในโปรเจกต์การถ่ายภาพบุคคลอย่างสร้างสรรค์ของเขา

ความใกล้ชิดของการถ่ายภาพบุคคลคือสิ่งที่ช่างภาพทั้งหลายปรารถนาตลอดชีวิตการทำงานของพวกเขาเพื่อเป็นการสำรวจความคิดนี้และก้าวข้ามความซ้ำซากจำเจอย่างตรงไปตรงมาNantpipat Vuthisak หรือที่รู้จักกันในชื่อFotoCandinyเลือกซีรีส์ภาพถ่ายบุคคลในห้องนอนและทำได้อย่างยอดเยี่ยมเกินความน่าเบื่อไปไกล

ในการทำงานกับนางแบบเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกสุขสบายของห้องนอนนั้นNantpipat พยายามสร้างภาพลักษณ์ของพื้นที่ส่วนตัวในแบบที่ต่างจากภาพจำทั่วไป

"แรงผลักดันที่ทำให้เกิดแนวคิดนี้คือการพิจารณาความซับซ้อนต่างๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนแบบลึกซึ้งครับ" เขากล่าว

เราติดต่อช่างภาพชาวไทยผู้มากประสบการณ์เพื่อขอข้อมูลแบบเจาะลึกว่าคนคุ้นเคยของเราคนนี้ใช้วิธีใดเพื่อทำให้เราได้เห็นถึงช่วงเวลาใหม่ๆของชีวิตที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและความรู้สึกที่ไร้กาลเวลา

Alpha 7 IV | FE 50 มม. F1.2 GM | 1/320 วินาที | F1.2 | ISO 160

การถ่ายภาพในโปรเจกต์นี้ต่างจากการถ่ายภาพแนวสตรีทหรืองานแต่งงานเพราะNantpipat สามารถควบคุมองค์ประกอบต่างๆได้มากขึ้นโดยเปลี่ยนสตูดิโอของเขาให้กลายเป็นห้องนอนสุดหรูที่แสนสะดวกสบาย

"ไม่ว่าอย่างไรเราก็ยังต้องทำการประเมินกันอย่างละเอียดว่าจะใช้แสงอย่างไรเพื่อสื่อถึงความอบอุ่นแสนสบายอย่างที่คนมักให้นิยามกับสถานที่อย่างห้องนอนซึ่งก็คือที่หลบภัยของผู้คนนั่นเอง" Nantpipat อธิบาย

"เรายังพยายามใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและอุปกรณ์ทั้งหมดในสตูดิโอของผมเพื่อให้สอดคล้องกับธีมที่เราตั้งไว้ด้วยครับ" เขากล่าวเสริม

ก้มต่ำหรือเงยขึ้น

เมื่อแก้ปัญหาทั่วๆไปเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมได้แล้วNantpipat ยังต้องถ่ายทอดความจริงจังและความเป็นธรรมชาติให้ได้ออกมาในระดับที่เท่ากัน "นี่แหละครับความยากของหัวข้อนี้ในการเข้าถึงธีมอย่างความสะดวกสบายและความใกล้ชิดซึ่งเกี่ยวเนื่องไปถึงประสบการณ์ด้านพื้นที่ส่วนตัวของเรานั้นโดยธรรมชาติแล้วเรามักถูกดึงดูดให้ถ่ายภาพเรื่องราวเล็กๆน้อยๆที่ไม่สลักสำคัญ" เขาบอก

"ความท้าทายคือการที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้ภาพถ่ายมีความเข้มข้นจริงจังในระดับที่ต้องการครับ" เขากล่าวเสริมเพื่อทำให้ได้อย่างที่ว่าNantpipat เลยลองทำสิ่งที่สวนกระแสเล็กน้อยด้วยการทดลองถ่ายภาพในมุมต่างๆ "ตามปกติแล้วช่างภาพจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพแนวเอียงอย่างถึงที่สุดเพื่อจะได้ไม่เป็นการทำลายองค์ประกอบของภาพอย่างไรก็ดีในซีรีส์นี้ผมอยากลองทำแบบนั้นกับพื้นที่สบายๆที่มีขนาดจำกัดดูบ้าง" เขากล่าว

แม้จะมีน้อยชิ้นแต่เขาก็ใช้อุปกรณ์ประกอบฉากเสริมเข้าไปได้อย่างเชี่ยวชาญ "เราพยายามให้มันดูเรียบง่ายโดยมีแค่เตียงผ้าปูเตียงหมอนไม่กี่ใบแผงไม้กับต้นไม้เขียวๆอีกนิดหน่อยและเรายังเสริมกระจกกับปริซึมเข้าไปด้วยเพื่อให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้น" เขากล่าว

Nantpipat ยังแนะนำให้นางแบบแสดงความรู้สึกเวลาที่เธออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวออกมา "ความเป็นมืออาชีพและพรสวรรค์ของเธอโดดเด่นมากจริงๆครับเพราะเธอสามารถถ่ายทอดทุกอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้อย่างเต็มที่ในแบบที่ผมคิดว่าใครหลายๆคนก็เป็นเมื่ออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเราเอง" เขากล่าว

Alpha 7 IV | FE 50 มม. F1.2 GM | 1/320 วินาที | F1.2 | ISO 160

เหลือไว้ให้จินตนาการบ้าง

เมื่อถ่ายภาพในพื้นที่จำกัดแต่คุณอยากถ่ายทอดความลึกของภาพบางครั้งการถ่ายเพียงบางส่วนของห้องก็เป็นวิธีสนุกๆที่เรียกความสนใจจากผู้ชมได้การใช้ภาพถ่ายที่สวยน่ามองซึ่งทิ้งอะไรเล็กๆน้อยๆไว้ให้คนดูจินตนาการต่อจะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้คนได้โดยเฉพาะเมื่อทำอย่างเหมาะสม

"ผมอยากให้ภาพถ่ายของผมมีแสงแฟลร์ที่คล้ายสีรุ้งเลยลองทำโดยใช้ปริซึมเพื่อบล็อกมุมหนึ่งของเลนส์เอาไว้ซึ่งก็ทำให้ผมได้ภาพถ่ายที่น่าสนใจมากครับผมยังลองใช้ปริซึมในตำแหน่งอื่นด้วยเพื่อดูว่าผลที่ได้จะถ่ายทอดความรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้านได้มากน้อยขนาดไหนในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมให้องค์ประกอบของภาพเหมือนอยู่ในความฝันด้วยครับ

เมื่อมีกล้องคู่ใจเป็นAlpha 7 IV ทำให้Nantpipat สามารถสำรวจโทนสีที่เหมาะกับภาพในแบบที่เขาต้องการได้ "การตั้งค่าCreative Look Neutral ของกล้องAlpha 7 IV ยังเป็นโปรไฟล์สีที่เรียบมากการเปลี่ยนให้ตรงตามอารมณ์และความรู้สึกที่เราต้องการถ่ายทอดไว้ในภาพจึงกลายเป็นเรื่องง่ายๆ" เขากล่าว

การใช้ประโยชน์จากการตั้งค่า Creative Look Neutral ในกล้อง Alpha 7 IV อย่างเต็มที่ทำให้ FotoCandiny สามารถนำเสนอลักษณะที่ใกล้ชิดในพื้นที่ส่วนตัวได้

การทำโปรเจกต์นี้เปิดโอกาสให้Nantpipat นำทักษะต่างๆออกมาใช้ในขณะเดียวกันก็ได้สำรวจธีมต่างๆอย่างเช่นความเปราะบางและความน่าเชื่อถือเขาแนะนำให้ช่างภาพรุ่นใหม่ทดลองสิ่งใหม่ๆและค้นหาแรงบันดาลใจจากสถานที่ต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ลองคิดนอกกรอบบ่อยๆครับโดยเฉพาะการถ่ายภาพในพื้นที่เล็กๆคุณสามารถใช้ประโยชน์จากการออกแบบภายในและการจัดแสงเพื่อถ่ายภาพที่ดูโดดเด่นได้" เขากล่าว

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Full Frame Hybrid Camera

FE 50mm F1.2 GM

G Master Standard Prime Lens for Full Frame

Article Theme

บุคคล

Out and About Town: Bringing Details to Life in Urban Videography

sneha — Tue, 09 May 2023 02:04:24 +0000

ตะลอนเมือง: ถ่ายทอดทุกรายละเอียดอย่างมีชีวิตชีวาในการถ่ายวิดีโอชีวิตเมือง

sneha Tue, 05/09/2023 - 07:34

Article Categories

แนะนำ

ความละเอียดลออของ Jao ทำให้เขาสามารถเก็บภาพถ่ายชีวิตเมืองไว้ในโปรเจกต์การถ่ายภาพบุคคลอย่างสร้างสรรค์ได้

Pinphong Niammanee ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Jao Filmmaker (@jaopinphong) นั้นชื่นชอบที่จะได้ถ่ายทอดรายละเอียดอย่างใกล้ชิดของตัวแบบให้เห็นกันอย่างชัดๆไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นขณะสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จักหรือดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างโดดเดี่ยวกลางพุ่มไม้ผลงานของเขาจะถ่ายทอดความอัศจรรย์ที่ซุกซ่อนไว้ออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวาทำให้ผู้ชมเกิดความอยากรู้และความหวั่นเกรง

สำหรับโปรเจกต์การถ่ายภาพบุคคลอย่างสร้างสรรค์ของJao นั้นเขาตัดสินใจเลือกธีม "นางแบบและเมือง" เพื่อนำเสนอเสน่ห์และความมั่นใจ "ไอเดียทั้งหมดในการถ่ายวิดีโอในครั้งนี้คือเพื่อถ่ายภาพพลังงานอันแข็งแกร่งแบบเพศชายจากฉากเมืองไปพร้อมๆกับพลังงานที่อ่อนโยนแบบเพศหญิงจากตัวนางแบบนี่จะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความคึกคักรุ่งเรืองและความมีคุณภาพ" เขากล่าวเราติดต่อJao เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเขาทำอย่างไรจึงนำองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้มาเทียบเคียงกันในผลงานของเขาได้

การจัดเฟรมเพื่อบรรยากาศที่ลงตัว

Alpha 7 IV | FE 20 มม. F1.8 G | 1/100 วินาที | F1.8 | ISO 800

ก่อนถ่ายวิดีโอเขาจำเป็นต้องพิจารณาสถานที่ถ่ายทำที่มีบรรยากาศร่วมสมัยและทันสมัย "สำหรับโปรเจกต์ของผมผมเลือกเวลาสินธรวิลเลจในกรุงเทพฯเป็นฉากหลังครับเพราะมันเต็มไปด้วยองค์ประกอบของเมืองมากมายทั้งตึกระฟ้าหน้าต่างโชว์สินค้าและด้านหน้าของตัวอาคารที่มีรสนิยม" Jao กล่าว

Alpha 7 IV | FE 35 มม. F1.8 | 1/100 วินาที | F1.8 | ISO 800

เนื่องจากอารมณ์คือจุดโฟกัสในวิดีโอของเขาJao จึงตัดสินใจไม่ใช้อุปกรณ์ประกอบฉากในโปรเจกต์นี้ "ผมพบว่าการใช้อุปกรณ์ประกอบฉากจะดึงความสนใจของผู้ชมไปจากนางแบบช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเวลาที่ถ่ายหรือบันทึกไว้ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมยกตัวอย่างเช่นผมจะใช้ต้นไม้เพื่อสร้างโบเก้ฉากหลังที่สวยสง่าในขณะที่หลังคาจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์จัดเฟรมที่สมบูรณ์แบบซึ่งทำให้นางแบบอยู่ในโฟกัส" เขากล่าวเสริม

Alpha 7 IV | FE 20 มม. F1.8 G | 1/100 วินาที | F1.8 | ISO 800

เสื้อผ้าสีเข้มๆยังช่วยเสริมความสมบูรณ์แบบให้กับลุคโดยทำให้นางแบบสามารถนำเสนอความมีสไตล์และความหรูหราซึ่งสอดคล้องกับธีมชีวิตเมือง "แจ็กเกตของนางแบบยังช่วยเสริมความสมบูรณ์แบบให้กับฉากหลังที่เป็นรูปทรงแข็งกระด้างได้อีกด้วยในขณะเดียวกันก็ยังช่วยถ่วงดุลกับพลังงานที่อ่อนโยนของนางแบบทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น" เขากล่าว

เมื่อมีกล้องคู่ใจเป็นAlpha 7 IV เขาสามารถถ่ายภาพที่คมชัดได้โดยไม่สูญเสียส่วนใดไม่ว่าจะเป็นนางแบบหรือรายละเอียดต่างๆที่ซ่อนอยู่

Alpha 7 IV คือกล้องที่Jao เลือกใช้เพราะช่วยให้เขาควบคุมการตั้งค่าสำหรับการถ่ายภาพได้ดังใจ "คุณสมบัติหนึ่งของกล้องที่ผมชอบคือPicture Profile แบบS-Log3 ซึ่งให้ภาพที่มีคุณภาพเป็นเลิศไม่ว่าจะถ่ายจากระยะไกลเพียงใดก็ตามแม้กระทั่งองค์ประกอบสำคัญอย่างส่วนเงาและส่วนสว่างก็จะไม่เบลอใช้คุณสมบัตินี้คู่กับโฟกัสอัตโนมัติและFocus Map เพื่อให้ตัวแบบที่เคลื่อนไหวยังคงมีความคมชัดเสมอ" เขากล่าว

ศิลปะในการปรับสมดุลแสง

Alpha 7 IV | FE 85 มม. F1.8 | 1/100 วินาที | F1.8 | ISO 800

ตลอดระยะเวลาที่ทำโปรเจกต์นี้ความท้าทายอย่างใหญ่หลวงที่สุดของJao คือการควบคุมปริมาณแสงธรรมชาติ“แสงอาจเป็นได้ทั้งเพื่อนที่ดีที่สุดหรือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของคุณแล้วแต่สภาพการณ์ครับแสงจะช่วยขับเน้นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่หากปริมาณแสงมากเกินไปก็อาจทำให้ผู้ชมโฟกัสไปที่ตัวแบบซึ่งเป็นจุดสนใจหลักได้ยากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวผมมักเช็คพยากรณ์อากาศเสมอเพื่อหาสภาวะที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ" เขากล่าว

ในบางครั้งJao จะทำการปรับสมดุลแสงสีขาวเองเพื่อที่จะได้เก็บทุกรายละเอียดบนใบหน้าของนางแบบเอาไว้อย่างครบถ้วน "ถ้าอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันและคุณจำเป็นต้องชดเชยความเข้มของแสงในระดับหนึ่งสมดุลแสงสีขาวนี่แหละครับตัวช่วยชีวิตเพราะมันจะนำอุณหภูมิของสีมาพิจารณาด้วยผลที่ได้คือจะไม่ทำให้เกิดสีเพี้ยนแบบไม่สมจริงและคุณยังสามารถสร้างโทนสีที่สดใสได้โดยไม่ทำให้โปรเจกต์ต้องล่าช้า" เขากล่าว

Alpha 7 IV | FE 35 มม. F1.8 | 1/100 วินาที | F1.8 | ISO 800

Jao ยังเลือกพรีเซ็ตFL ในCreative look ของกล้องเพื่อให้ภาพวิดีโอที่เหมือนภาพยนตร์ด้วย "การถ่ายทำด้วยโหมดFL ทำให้ได้แสงที่ดูมีเสน่ห์และเอฟเฟกต์เสียงที่เสริมภาพลักษณ์และความรู้สึกของตัวแบบซึ่งช่วยผมได้มากในขั้นตอนการตัดต่อครับในขณะเดียวกันยังทำให้ผมได้โทนสีที่เหมาะสมโดยไม่ต้องใช้วิธีการเกลี่ยสีด้วย" เขากล่าว

ในส่วนของการเก็บรายละเอียดJao เชื่อว่าช่างภาพทุกคนต้องมีลักษณะเฉพาะอยู่สองอย่างนั่นคือมีความอดทนสูงและความเต็มอกเต็มใจที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ "สำหรับใครที่กำลังจะลองถ่ายวิดีโอผมแนะนำว่าอย่าเร่งรีบเกินไปในการบันทึกภาพวิดีโอใช้เวลาสักหน่อยเพื่อวางแผนให้กับการเล่าเรื่องและต้องพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่เสมอแม้ว่าอะไรๆจะไม่เป็นไปอย่างที่คุณต้องการก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือเปลี่ยนมันให้เป็นตัวคุณและโลกของคุณเพื่อที่คุณจะสามารถดึงดูดผู้ชมได้ด้วยมุมมองที่สดใหม่และไม่เหมือนใคร"