Alpha 7C II

Landscape Photographer’s Review of Sony’s FE 16-35mm F2.8 GM II

Calvin — Fri, 05 Jul 2024 06:01:48 +0000

รีวิวเลนส์ Sony FE 16-35mm F2.8 GM II จากช่างภาพสาย Landscape

Calvin Fri, 07/05/2024 - 11:31

Article Categories

บทวิจารณ์

Body Category

Alpha 7C II

Alpha 7CR

Lens Category

FE 16-35mm F2.8 GM II

ชายหาดที่ปกคลุมด้วยหิมะกับแสงสุดท้ายของวัน, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 19 มม. | 120 วินาที | F14 | ISO 50 | WB 7500K

บทนำ

เลนส์ Sony FE 16-35mm F2.8 GM II (SEL1635GM2) คือเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษแบบฟูลเฟรมซึ่งเป็นเลนส์รุ่นที่สองจากตระกูล G Master เลนส์รุ่นนี้มีการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ จนต่างจากรุ่นก่อนมาก จุดที่น่าสนใจคือการเคลือบ Nano AR รุ่นที่สอง หรือ Nano AR Coating II ซึ่งจะช่วยลดแสงแฟลร์ลง ทำให้ได้ภาพแฉกแสงอาทิตย์ที่สวยจับตา ตัวเลนส์มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น โดยที่ความยาวลดลง 1 ซม. และน้ำหนักเบากว่าเดิม 130 กรัม เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง Alpha 7C II (หรือ Alpha 7C R) คุณจะได้คู่หูที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ซึ่งเหมาะมากสำหรับการเคลื่อนย้ายและการเดินทาง

ผมจะไม่พูดถึงตารางหรือตัวเลข แต่จะให้คุณดูภาพถ่ายของจริงซึ่งเผยให้เห็นคุณสมบัติต่าง ๆ ของเลนส์และผลงานศิลปะที่ถ่ายโดยใช้กล้อง Alpha 7C II และเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ภาพที่ได้มาจากทริปที่ผมเดินทางไปยังหมู่เกาะโลโฟเทนในประเทศนอร์เวย์และภูมิภาคฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่น สภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพนั้นท้าทายมากทีเดียว แต่กล้องและเลนส์ก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมสุด ๆ แม้ว่าอุณหภูมิจะหนาวจัดถึง -15°C และบางเวลาก็มีลมแรงถึง 30 กม./ชม.

เลนส์มีช่วงความยาวโฟกัสหลายช่วงตั้งแต่ 16 ถึง 35 มม. ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพทิวทัศน์พร้อมฉากหน้า โดยเฉพาะทัศนียภาพของท้องทะเลและทะเลสาบ ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดรูรับแสงกว้างสุด F2.8 ของเลนส์รุ่นนี้ยังครอบคลุมถึงการถ่ายภาพในที่ร่มซึ่งมีสภาพแสงน้อยและการถ่ายภาพดาราศาสตร์ เช่น การถ่ายภาพทางช้างเผือกและเส้นแสงดาวหรือ star trails ด้วย เมื่อรวมกับคุณสมบัติทางออปติคัลที่ล้ำเลิศและดีไซน์ที่กะทัดรัด จึงทำให้เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II กลายเป็นหนึ่งในเลนส์โปรดของผมครับ

ดินแดนแห่งความสุข, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 23 มม. | 1/125 วินาที | F5.6 | ISO 800 | WB7000K

ส่วนที่ไม่มีการปรับแก้ไข

ภาพถ่ายทุกภาพในรีวิวนี้เป็นการบันทึกในรูปแบบ RAW ด้วยกล้อง Alpha 7C II และปรับแต่งโดยใช้ RAW decoding ใน Adobe Lightroom ความคมชัดเป็นการปรับตั้งตามค่ามาตรฐาน 33MP (Amount= 70, Radius= 0.8, Detail= 70, Masking= 0) จากนั้นผมแต่งภาพใน Photoshop โดยใช้ Luminosity Masks เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ภาพที่มีศิลปะ อย่างไรก็ตาม ยังมีการปรับตั้งบางอย่างที่ผมไม่ได้แตะต้องเลย ได้แก่

ความบิดเบี้ยว (Distortion)
การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพ (Vignetting)
แสงแฟลร์ (Flare)
ความคลาดสี (Chromatic Aberration หรือ CA)

เกณฑ์ในการเลือกเลนส์

เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวล้ำไปอย่างมากนับตั้งแต่ยุค 1990 เป็นต้นมา ทำให้เกณฑ์ในการเลือกเลนส์ขยับสูงขึ้นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เลนส์รุ่นเรือธงจากบริษัทผู้ผลิตรายสำคัญที่ต่างลดความสีเพี้ยนลงอย่างมากและเพิ่มความคมชัดให้กับมุมของภาพ ดังนั้น เกณฑ์ที่ผมใช้ในการเลือกเลนส์สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ ณ ปัจจุบันจึงเปลี่ยนไปด้วย ต่อไปนี้คือเกณฑ์ที่ผมเรียงตามลำดับความสำคัญครับ

แฉกแสงอาทิตย์และแสงแฟลร์: แฉกแสงอาทิตย์หรือ Sunstar จะทำให้ภาพทิวทัศน์ดูพิเศษไม่เหมือนใคร เลนส์ที่สามารถสร้างแฉกแสงอาทิตย์ได้สวยอย่างไร้ที่ตินับว่าหายากมาก
ความบิดเบี้ยว: เลนส์ซูมมุมกว้างส่วนใหญ่มักทำให้ภาพเกิดความบิดเบี้ยว ยิ่งมีความบิดเบี้ยวน้อย ภาพจะยิ่งเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถึงแม้เราจะสามารถแก้ไขความบิดเบี้ยวในขั้นตอนการตกแต่งภาพในภายหลังได้ก็จริง แต่วิธีนี้อาจส่งผลให้เกิดการขยายหรือบีบภาพ และท้ายที่สุดจะทำให้ภาพเสียความคมชัดที่มีอยู่เดิมได้
ความคมชัดที่มุมภาพ: การทำให้ภาพมีความคมชัดสม่ำเสมอตั้งแต่ตรงกลางภาพไปจนถึงมุมภาพเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพ: คือการทำให้มุมขอบทั้งสี่ด้านของภาพมืดกว่าบริเวณตรงกลางภาพ
ความคลาดสี สีเพี้ยน: หรือที่เรียกว่าขอบม่วง (Colour Fringing) ส่วนมากจะพบในภาพที่บริเวณขอบภาพมีส่วนมืดและส่วนสว่างตัดกันอย่างชัดเจน
โฟกัสอัตโนมัติ: ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ ผมมักจะปรับโฟกัสเองและ Auto Focus (AF) บ้างเป็นบางครั้งเมื่อถ่ายภาพสัตว์ป่าในฮอกไกโด ดังนั้น AF จึงถูกจัดให้มีความสำคัญอยู่ในลำดับล่างสุด

แฉกแสงอาทิตย์สวย ๆ กับแสงแฟลร์เล็กน้อย

จากคุณสมบัติทั้งหมดของเลนส์ การทำเอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์น่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดเพราะต้องอาศัยหลาย ๆ องค์ประกอบรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเลนส์ จำนวนม่านรูรับแสงที่ใช้ และคุณภาพของการเคลือบ Nano ซึ่งแฉกแสงอาทิตย์ที่เรียกได้ว่างดงามนั้น กลุ่มแสงทั้งหมดต้องเห็นรูปทรงอย่างชัดเจน แฉกแสงต้องยาวและกระจายออกอย่างสมดุล พร้อมด้วยปลายแหลมที่คมชัด

จำนวนแฉกแสงที่กระจายออก มักสัมพันธ์กับจำนวนม่านรูรับแสง ซึ่งถ้าจำนวนม่านรูรับแสงเป็นเลขคู่ก็จะได้แฉกแสงจำนวนเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น เลนส์ที่มีม่านรูรับแสงหกใบจะได้ภาพดาว 6 แฉก ในทางกลับกัน จำนวนม่านรูรับแสงที่เป็นเลขคี่จะให้ภาพแฉกแสงเป็นสองเท่า เช่น เมื่อใช้เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ที่มีจำนวนม่านรูรับแสง 11 ใบก็จะได้ภาพดาว 22 แฉก ผมชอบถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีเอฟเฟกต์แฉกแสงกระจายเป็น 22 แฉกมาก เมื่อแสงเจิดจ้าสดใสของดวงอาทิตย์สาดส่องผ่านภูเขาออกมาเป็นบางส่วน จะเห็นลำแสงกระจายออกเป็น 11 แฉก (ครึ่งหนึ่งของ 22) เกิดเป็นภาพที่สวยอย่างน่าทึ่ง ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณมีภาพดาวหกแฉกในสถานการณ์ที่มองเห็นแสงเพียงครึ่งหนึ่งเหมือนอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ภาพที่ได้ออกมาก็จะมีเพียงสามแฉกแสง ซึ่งอาจไม่น่าพอใจเท่าไหร่

คุณภาพของการเคลือบ Nano ช่วยขจัดแสงสะท้อนบนพื้นผิวชิ้นเลนส์ จึงช่วยลดแสงหลอกและแสงแฟลร์ของเลนส์ได้ เทคโนโลยีการเคลือบ Nano AR รุ่นที่สองของ Sony เริ่มใช้ครั้งแรกในเลนส์ FE 12-24mm F2.8 GM เมื่อปี 2020 และประสบความสำเร็จอย่างมาก เลนส์ระดับแนวหน้ารุ่นนี้ให้ภาพแฉกแสงอาทิตย์สวยและสะอาดตาที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ เลนส์ FE 16-35mm GM II ตัวนี้ก็ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเคลือบ Nano AR เดียวกันนี้เช่นกัน แม้ว่าจะในระดับที่น้อยกว่าเนื่องจากการออกแบบเลนส์เองก็ตาม แม้ว่าภาพที่ผมถ่ายจะยังคงมีแสงแฟลร์เล็กจิ๋วอยู่สองสามจุด แต่ก็ลบออกได้ง่าย ๆ ในขั้นตอนการตกแต่งภาพในภายหลัง

หมายเหตุ: เมื่อถ่ายภาพดวงอาทิตย์โดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้ฟิลเตอร์ทุกประเภทด้วยนะครับเพื่อป้องกันแสงแฟลร์เข้าไปในเลนส์เพิ่มมากขึ้น

แฉกแสงอาทิตย์ FE 16-35mm F2.8 GM II

แฉกแสงอาทิตย์ในระยะใกล้แบบละเอียด ทั้งก่อนและหลังทำการแก้ไข

ต่อไปนี้เป็นอันดับที่ผมจัดเองสำหรับคุณภาพของภาพถ่ายแฉกแสงอาทิตย์ซึ่งผมใช้เลนส์ของ Sony ในการถ่ายครับ

FE 12-24mm F2.8 GM: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์ที่ดีที่สุดซึ่งมองไม่เห็นแสงแฟลร์เลย
FE 16-35mm F2.8 GM II (เลนส์รุ่นที่รีวิว): เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์ยอดเยี่ยมแต่มีแสงแฟลร์สองสามจุด
FE 12-24mm F4 G: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่ลำแสงที่กระจายออกมาไม่คมชัด เมื่อใช้รูรับแสงที่กว้างกว่า F11 จะทำให้ได้รูปดาวโค้งเป็นวงคล้ายพัด
FE 16-35mm F2.8 GM: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่มีแสงแฟลร์
FE 24-70mm F2.8 GM II: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่มีแสงแฟลร์เป็นบางส่วน
FE 24-70mm F2.8 GM: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์สวยงามแต่มีแสงแฟลร์
FE PZ 16-35mm F4 G: เอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์ที่ลำแสงเล็กบางและยาวเกินไป ทั้งยังมีแสงแฟลร์ด้วย

ผืนหญ้าสีแดง, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 20 มม. | 120 วินาที | F11 | ISO 200 | WB 4100K

ความบิดเบี้ยว

ความบิดเบี้ยวหรือ Distortion เป็นความผิดพลาดทางออปติคัล โดยเส้นตรงจะกลายเป็นเส้นโค้ง ทั้งแบบโค้งเข้าเหมือนถัง โค้งออกเหมือนหมอนปักเข็ม หรือรูปทรงเรขาคณิตเชิงซ้อนเหมือนหนวดก็เป็นได้ ลักษณะนี้จะต่างจากความบิดเบี้ยวจากระยะห่าง (Perspective Distortion) ซึ่งวัตถุที่อยู่ใกล้จะดูเหมือนอยู่ไกลออกไปและวัตถุที่อยู่ไกลจะมีขนาดเล็กลง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมองขึ้นไปที่ตึกสูง เราจะเห็นว่ายอดตึกดูเล็กกว่าฐานตึก ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากฐานตึกอยู่ใกล้กับกล้องมากกว่า เอฟเฟกต์การเอนเข้ามาบรรจบกันนี้จะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อใช้ช่วงความยาวโฟกัสที่กว้างขึ้น และไม่ใช่ความผิดพลาดของเลนส์แต่อย่างใด

เลนส์ซูมจะมีความซับซ้อนเชิงออปติคัลมากกว่าเลนส์ไพรม์ ดังนั้น การผลิตเลนส์ซูมที่มีความบิดเบี้ยวต่ำจึงท้าทายกว่า แม้ว่าทัศนียภาพของทะเลและทะเลสาบจำเป็นต้องควบคุมความบิดเบี้ยวให้ดีเพื่อรักษาเส้นระดับสายตาให้เป็นแนวตรง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผมไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเส้นขอบฟ้าโล่ง ๆ แบบนั้นเท่าไหร่ ภาพถ่ายของผมส่วนใหญ่จะมีวัตถุอยู่ในพื้นหลัง เช่น ทิวเขา ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับองค์ประกอบภาพ

Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 19 มม. | 120 วินาที | F14 | ISO 50 | WB 7500K

การแก้ไขความบิดเบี้ยวของ GM II สามารถทำได้ดีกว่า GM

เมื่อถ่ายภาพด้วยช่วงความยาวโฟกัสต่าง ๆ ผมสังเกตเห็นว่าการแก้ไขความบิดเบี้ยวของเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II สามารถทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย เลนส์มีความบิดเบี้ยวปานกลาง ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ชัดสุดที่ระยะ 16 มม. ช่วงความยาวโฟกัสตั้งแต่ 20 มม. ถึง 35 มม. จะพบความบิดเบี้ยวน้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเวลาถ่ายภาพในชีวิตจริง ผมจึงไม่ได้สังเกตเห็นความบิดเบี้ยวใด ๆ และไม่จำเป็นต้องแก้ไขความบิดเบี้ยวของภาพทุกภาพในรีวิวนี้ในขั้นตอนการตกแต่งภาพภายหลังด้วย

ภาพด้านล่างคือภาพพร้อมเส้นระดับสายตาที่ผมทดลองถ่าย โดยเป็นภาพก่อนและหลังทำการแก้ไขความบิดเบี้ยวใน Adobe Photoshop

ความบิดเบี้ยวจะเห็นได้ชัดสุดที่ระยะ 16 มม. ก่อนและหลังทำการแก้ไข ถ่ายด้วย FE 16-35mm F2.8 GM II

ความคมชัด

เลนส์ต้องมีความคมชัดมากพอจึงจะแสดงความละเอียดสูงสุดของกล้องในระดับล้านพิกเซล (MP) ได้ เมื่อกล้องมีความละเอียดเพิ่มขึ้น เลนส์จำเป็นต้องคมชัดขึ้นด้วยเช่นกันเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตเซ็นเซอร์กล้องระดับแนวหน้า Sony ตั้งใจจะผลิตเลนส์ที่คมชัดที่สุดซึ่งสามารถรองรับได้แม้กล้องที่มีความละเอียด 100MP หรือสูงกว่า บริษัทใช้เวลา 20 ปีในการพัฒนาชิ้นเลนส์ XA (extreme aspherical) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความคมชัดของเลนส์ขึ้นไปอีกระดับ ดังนั้น เลนส์ GM จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยเป็นการนำความคมชัดอย่างน่าทึ่งกับโบเก้ที่นุ่มละมุนมารวมไว้ด้วยกัน หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนากลุ่มเลนส์ GM II ซึ่งมีขนาดเล็กลงและเบากว่าเดิม

เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ใช้ชิ้นเลนส์ XA สามชิ้น (เลนส์ GM รุ่นก่อนใช้สองชิ้น) ช่วยเพิ่มความคมชัดสม่ำเสมอทั้งยังรักษาดีไซน์ให้มีความกะทัดรัดยิ่งขึ้น ความคมชัดของเลนส์เป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ช่างภาพส่วนใหญ่ต่างปรารถนามากที่สุด ซึ่งเลนส์ GM II ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในเลนส์มุมกว้างพิเศษที่คมชัดที่สุดเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดโดดเด่นตั้งแต่กลางภาพจรดมุมภาพในแบบที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากแบรนด์อื่น

ความละเอียดในระดับสูงของ FE 16-35mm F2.8 GM II

บ้านสีแดงใน Sakrisøy, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 18 มม. | 30 วินาที | F11 | ISO 100 | WB 6600K

การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพ

การเพิ่มขอบมืดให้กับภาพหรือ Vignetting คือการค่อย ๆ แรเงาจากรอบนอกของเลนส์เข้าไปยังตำแหน่งตรงกลางที่สว่างกว่า เอฟเฟกต์นี้จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อใช้รูรับแสงกว้างสุด สำหรับเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ตัวนี้มีค่ารูรับแสงกว้างสุดอยู่ที่ F2.8 สำหรับการถ่ายภาพดาราศาสตร์ ควรใช้รูรับแสงกว้างสุด F2.8 เพื่อให้การตั้งค่า ISO ยังคงมีค่าต่ำ ซึ่งช่วยลดนอยส์ได้ การถ่ายภาพในกรณีดังกล่าว ท้องฟ้ากลางคืนจะมืดสนิทซึ่งทำให้ยากต่อการสังเกตการเพิ่มขอบมืด ส่วนใหญ่แล้วผมจะปรับรูรับแสงอยู่ระหว่าง F11 กับ F16 สำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์กลางวันซึ่งจะมองเห็นการเพิ่มขอบมืดได้น้อยที่สุด ดังนั้น ในการใช้งานจริงแล้ว เมื่อใช้เลนส์ตัวนี้จะไม่สามารถสังเกตเห็นการเพิ่มขอบมืด เว้นแต่ว่าคุณจะถ่ายภาพที่เป็นเฟรมสีขาวเสมอกันหมด

การเพิ่มขอบมืดที่ F2.8 เมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณตรงกลาง จะเห็นว่ามุมบนซ้ายและขวาไม่มีจุดใดที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม แสงที่เส้นระดับสายตาด้านล่างส่งผลถึงส่วนสว่างและส่วนมืดที่มุมทั้งสองของภาพมากกว่า ทำให้เอฟเฟกต์การเพิ่มขอบมืดของเลนส์เห็นได้ไม่ชัดนักแม้ว่าจะมีอยู่ก็ตาม

ในภาพด้านล่าง คุณจะเห็นได้ว่าส่วนของเมฆบริเวณด้านบนซ้ายและด้านบนขวาค่อนข้างสอดคล้องกัน เหมือนกับหิมะที่ด้านล่างซ้ายและด้านล่างขวา เมื่อเปรียบเทียบกับบริเวณตรงกลาง

พระอาทิตย์ขึ้นที่หมู่บ้าน Hamnøy, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 22 มม. | 120 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 6150K

ความคลาดสี – CA

ความคลาดสีหรือ Chromatic aberration เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากเลนส์ เนื่องจากสีทั้งหมดไม่ถูกโฟกัสยังจุดเดียวกันอย่างแม่นยำ ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมของสีซึ่งจะสังเกตเห็นได้ชัดที่สุดบริเวณขอบตัดของภาพ FE 16-35mm F2.8 GM II ใช้การออกแบบออปติคัลขั้นสูงพร้อมด้วยชิ้นเลนส์ Super ED หนึ่งชิ้นและชิ้นเลนส์ ED สองชิ้นเพื่อลดความคลาดสี ผลที่ได้คือ คอนทราสต์และคุณภาพสีดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดเนื่องจากรายละเอียดบริเวณขอบยังคงชัดเจนและสะอาดตา

มองไม่เห็นความคลาดสีหรือที่เรียกว่าขอบม่วงเลย แม้ในสภาพแสงน้อย

AF ความเร็วสูงเป็นพิเศษสำหรับอนาคต

เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ใช้มอเตอร์ XD Linear 4 ตัวสำหรับการทำงานที่แม่นยำของระบบโฟกัสอัตโนมัติ ซึ่งเร็วขึ้นเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อน ในกรณีของกล้องสมรรถนะสูงอย่าง Alpha 9 III จะสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึง 120 fps ได้เลย ความสามารถของระบบออโต้โฟกัสใหม่นี้เป็นประโยชน์อย่างมากกับการถ่ายวิดีโอหรือการถ่ายภาพกีฬาต่าง ๆ ในระยะใกล้

มอเตอร์ XD Linear 4 ตัวในเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II นี้จะช่วยให้โฟกัสอัตโนมัติ (AF) ทำงานด้วยความรวดเร็วเป็นพิเศษ นั่นคือสามารถเร็วได้ถึง 120 fps เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องที่มีความเร็วสูง

บ้านสีแดงริมทะเลสาบสีฟ้า, หมู่เกาะโลโฟเทน, นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II | 35 มม. | 120 วินาที | F11 | ISO 50 | WB 7500K

บทสรุป

การเลือกเลนส์ให้เหมาะกับการเดินทางครั้งสำคัญเป็นเรื่องที่ช่างภาพส่วนใหญ่ต้องพิจารณาไตร่ตรองอย่างจริงจัง การใช้เลนส์ที่มีคุณภาพด้อยอาจทำให้ต้องเศร้าใจไปอีกนาน ผมเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองได้ถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมเอาไว้แล้วเพื่อที่จะได้มาเจอในภายหลังว่าภาพเหล่านั้นไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ในทางเทคนิค ภาพถ่ายบางภาพมีแสงที่ดีมากแต่กลับมีความคมชัดน้อยเกินไป ในขณะที่บางภาพมีเอฟเฟกต์แฉกแสงอาทิตย์แต่ก็โดนทำลายด้วยแสงแฟลร์ เรื่องแบบนี้คือฝันร้ายของช่างภาพที่ลงทุนจ่ายเงินไปจำนวนมากเพื่อทริปของตน

หลังจากใช้เวลาสองเดือนไปกับเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ผมถ่ายภาพไปแล้วกว่า 800 ภาพ ทั้งภาพที่ถ่ายจากหมู่เกาะโลโฟเทนในประเทศนอร์เวย์และภูมิภาคฮอกไกโดของประเทศญี่ปุ่น ผมก็เริ่มชอบเลนส์ตัวนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งได้มาจับคู่กับกล้อง Alpha 7C II คู่หูคู่นี้เคยรังสรรค์ภาพถ่ายที่คมชัดและมีชีวิตชีวาได้อย่างน่าเชื่อถือท่ามกลางสภาพอากาศที่โหดร้ายที่สุดมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลนส์ตัวนี้คือหนึ่งในเลนส์มุมกว้างพิเศษที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังใช้ร่วมกับชุดฟิลเตอร์สี่เหลี่ยมขนาด 100 มม. ได้ด้วย เลนส์รุ่นนี้จึงเป็นเลนส์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์โดยแท้ สำหรับข้อดีและข้อเสียของ FE 16-35mm F2.8 GM II มีดังนี้:

ข้อดี

เล็กและเบากว่า FE 16-35mm F2.8 GM อย่างเห็นได้ชัด
การควบคุมแสงแฟลร์ทำได้ดีเยี่ยม เป็นรองเพียง FE 12-24mm F2.8 GM เท่านั้น
ภาพแฉกแสงอาทิตย์ 22 แฉกที่สวยสุด ๆ มีแสงแฟลร์เพียงไม่กี่จุด ซึ่งสามารถลบออกได้ง่าย ๆ เมื่อทำการตกแต่งภาพในภายหลัง
ความบิดเบี้ยวน้อยกว่าเลนส์รุ่นก่อนหน้า ซึ่งการไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลังยังคงเป็นคุณสมบัติที่พึงมีเสมอ

ไม่พบความคลาดสีหรือขอบม่วง
ความคมชัดเป็นเลิศตั้งแต่ตรงกลางภาพจนถึงมุมภาพ แม้ว่ามุมภาพจะไม่ได้คมชัดยอดเยี่ยมในระดับเดียวกับตรงกลางภาพก็ตามที
รูรับแสงขนาดใหญ่ F2.8 ทำให้ถ่ายภาพเส้นแสงดาวได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะที่มุมกว้าง 16 มม. จะมีประโยชน์มากเมื่อทางช้างเผือกอยู่ในแนวตั้ง
คุณสามารถใช้ชุดฟิลเตอร์สี่เหลี่ยมขนาด 100 มม. แบบมาตรฐานได้
โฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูงเป็นพิเศษซึ่งรองรับได้ถึง 120 fps (สำหรับกล้องอย่างเช่น Alpha 9 III)

ข้อเสีย

เมื่อถ่ายภาพดวงอาทิตย์ยังคงมีจุดแสงแฟลร์แต่ก็ไม่กี่จุด ถ้าสามารถแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้อย่างสิ้นเชิงเหมือนอย่าง FE 12-24mm F2.8 GM ก็คงจะดีมาก อย่างไรก็ตาม จุดแสงแฟลร์ไม่กี่จุดเหล่านี้สามารถลบออกได้ง่าย ๆ ในขั้นตอนการตกแต่งภาพในภายหลัง

หมู่บ้าน Reine ที่สวยงามและมีมนต์ขลัง, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 17 มม. | 120 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 6700K

ชายหาดท่ามกลางลมแรง, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 19 มม. | 120 วินาที | F11 | ISO 100 | WB 7500K

ชายหาด Skagsanden ที่อาบไปด้วยแสงสีเขียว, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 26 มม. | 120 วินาที | F14 | ISO 50 | WB 6500K

ชายหาดสีขาวกับท้องฟ้าสีเขียว, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 21 มม. | 120 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 7500K

การมาบรรจบกัน, หมู่เกาะโลโฟเทน นอร์เวย์, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 35 มม. | 1/80 วินาที | F7 | ISO 800 | WB 5500K

ลวดลายบนหิมะ, ฮอกไกโด ญี่ปุ่น, ก.พ. 2024 Alpha 7C II | FE 16-36mm F2.8 GM II | 35 มม. | 1/4 วินาที | F16 | ISO 50 | WB 5950K

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Compact Full Frame Camera

FE 16-35mm F2.8 GM II

G Master Wide Zoom Lens for Full Frame

Article Theme

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

การท่องเที่ยว

3 Simple Steps to Make Creative Look Yours

Calvin — Wed, 08 May 2024 08:30:13 +0000

3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการสร้าง Creative Look ของคุณเอง

Calvin Wed, 05/08/2024 - 14:00

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7C II

Lens Category

FE 24-50mm F2.8 G

Creative Look คืออะไร

Creative Look เป็นพรีเซ็ตที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าในกล้อง Sony บางรุ่น ซึ่งมีพรีเซ็ตลุคแบบต่าง ๆ ให้เลือกถึง 10 แบบ ลุคเหล่านี้สร้างขึ้นโดยการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโทนสีและคอนทราสต์ ความอิ่มสี ความคมชัด ความสว่าง และอื่น ๆ

กล้องฟูลเฟรมของ Sony มีข้อได้เปรียบมากมาย เช่น ระบบติดตาม Eye AF ที่แม่นยำ โบเก้ที่นุ่มนวล และช่วงไดนามิกกว้าง บวกกับความสะดวกสบายของ Creative Look ที่ช่วยเปิดประตูสู่โลกกว้างแห่งการสร้างสรรค์

มาดูกันว่าพรีเซ็ต Creative Look ที่ได้รับความนิยม 4 แบบมีอะไรบ้าง พร้อมกับภาพนิ่งที่ถ่ายด้วย Alpha 7C II

IN - พรีเซ็ต Instant | Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 50mm | 1/640 sec | F2.8 | ISO 100

SH - พรีเซ็ต Soft Highkey | Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 48mm | 1/2000 sec | F2.8 | ISO 320

FL - พรีเซ็ต Film | Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 44mm | 1/500 sec | F2.8 | ISO 100

VV2 - พรีเซ็ต Vivid 2 | Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 27mm | 1/2000 sec | F2.8 | ISO 125

คุณสามารถปรับแต่ง Creative Look แต่ละแบบเพิ่มเติมได้ เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ที่คุณต้องการ

ปรับแต่ง Creative Look ด้วย 3 ขั้นตอนง่าย ๆ

ขั้นตอนที่ 1 เลือกพรีเซ็ตที่คุณชอบ

ขั้นตอนที่ 2 คุณสามารถเปลี่ยนค่าต่าง ๆ อย่างเช่น

คอนทราสต์
ส่วนสว่าง
ส่วนเงา
การเลือนภาพ
ความอิ่มสี
ความคมชัด
ช่วงความคมชัด
ความชัดเจน

ขั้นตอนที่ 3 ปรับอุณหภูมิสีด้วยการปรับสมดุลแสงสีขาว

ค่าพรีเซ็ตที่คุณบันทึกได้

ลองทำตามวิดีโอช่วยสอนของเราเพื่อเป็นแนวทางในการช่วยให้คุณเริ่มต้นการปรับแต่งค่าพรีเซ็ตในกล้อง หากคุณชอบลุคที่อยู่ในตัวอย่างภาพนิ่งและวิดีโอของเรา สามารถบันทึกค่าพรีเซ็ตนั้นไว้ใช้ในภายหลังได้!

Status

Pending Approval

Status

Pending Approval

Creative Look ที่มีในกล้อง Alpha 7S III, 7R V, 7CR, 7 IV, 7C II, 6700, ZV-E1, ZV-1 II, ZV-1F

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Compact Full Frame Camera

FE 24-50mm F2.8 G

G Standard Zoom Lens for Full Frame

Article Theme

บุคคล

VLOG

Nailing the Aesthetic with Creative Look

Calvin — Wed, 08 May 2024 07:13:17 +0000

ภาพดูสวยน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วย Creative Look

Calvin Wed, 05/08/2024 - 12:43

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7C II

Lens Category

FE 24-50mm F2.8 G

การใช้พรีเซ็ต Creative Look

พรีเซ็ต Creative Look แบบต่าง ๆ ทั้ง 10 แบบจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ภาพสวยสุดประทับใจตามอารมณ์ที่คุณอยากถ่ายทอด คลิกที่นี่เพื่อดูพรีเซ็ต Creative Look แบบต่าง ๆ

หากต้องการเลือกพรีเซ็ต Creative Look ให้กดปุ่ม Fn (ฟังก์ชัน) บนกล้องขณะอยู่ในหน้าจอถ่ายภาพ จากนั้นเลือก Creative Look จากเมนูฟังก์ชันเพื่อดูตัวเลือกพรีเซ็ตทั้งหมดที่แสดงบนหน้าจอ นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูตัวอย่างโทนสีขณะสลับดูลุคแบบต่าง ๆ ได้ด้วย

เลือกสรรได้ตามอารมณ์

บทความนี้จะกล่าวถึงการตั้งค่าพิเศษ 4 แบบของ Creative Look ได้แก่ VV2, FL, IN และ SH โดยจะอธิบายถึงสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่เหมาะสมในการใช้พรีเซ็ตแต่ละแบบ พร้อมแสดงตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟูลเฟรม Alpha 7C II

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 27mm | 1/2000 sec | F2.8 | ISO 125

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 50mm | 1/2500 sec | F2.8 | ISO 200

VV2

VV2 หรือพรีเซ็ต Vivid 2 จะช่วยเพิ่มความสว่างและความมีชีวิตชีวาให้กับภาพ พรีเซ็ตนี้สามารถชูให้ตัวแบบและฉากมีสีสันโดดเด่นเป็นพิเศษ รวมทั้งเพิ่มความสดใสให้กับสีที่ซีดหรือหมองระหว่างการถ่ายภาพแบบ high-key หรือในสภาพอากาศที่มีเมฆมาก

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 44mm | 1/500 sec | F2.8 | ISO 100

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 50mm | 1/100 sec | F2.8 | ISO 640

FL

FL หรือพรีเซ็ต Film จะทำให้บางสีดูอ่อนลงเล็กน้อยและเพิ่มความคอนทราสต์ ส่งผลให้ภาพดูสวยงามคลาสสิก เหมือนพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปในอดีต พรีเซ็ตแบบนี้มีประโยชน์มากเมื่อช่างภาพต้องการเพิ่มกลิ่นอายแบบวินเทจให้กับภาพ ภาพบุคคลหรือภาพทิวทัศน์ที่ได้จึงให้ความรู้สึกละมุนงดงามเหนือกาลเวลา

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 50mm | 1/640 sec | F2.8 | ISO 100

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 37mm | 1/400 sec | F2.8 | ISO 160

IN

IN หรือพรีเซ็ต Instant จะลดคอนทราสต์และความอิ่มสีเพื่อลุคที่ดูแมตต์ พรีเซ็ตแบบนี้แนะนำสำหรับการสร้างสรรค์บรรยากาศที่ให้ความรู้สึกหรูหรา หรือสร้างภาพนิ่งและวิดีโอที่ดูภูมิฐาน

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 50mm | 1/2000 sec | F2.8 | ISO 500

Alpha 7C II | FE 24-50mm F2.8 G | 50mm | 1/400 sec | F2.8 | ISO 160

SH

SH หรือพรีเซ็ต Soft Highkey จะสร้างบรรยากาศที่มีลักษณะสว่างใส ดูนุ่มนวล มีชีวิตชีวา พรีเซ็ตแบบนี้เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์ภาพนิ่งและวิดีโอที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล บอบบาง

การปรับแต่งพรีเซ็ต Creative Look

ฟีเจอร์ Creative Look มีตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย ซึ่งรวมถึงการปรับแต่งต่อไปนี้

คอนทราสต์
ส่วนสว่าง
ส่วนเงา
การเลือนภาพ
ความอิ่มสี
ความคมชัด
ช่วงความคมชัด
ความชัดเจน

เมื่อคุณสร้างสรรค์ลุคตามต้องการได้แล้ว คุณสามารถบันทึกลุคดังกล่าวเป็นพรีเซ็ตแบบกำหนดเองเพื่อไว้ใช้งานในอนาคต ฟังก์ชันนี้ยังช่วยให้คุณบันทึกโหมดเดียวกันได้หลายรูปแบบ ทำให้คุณสามารถกำหนดพรีเซ็ตแบบที่คุณชอบให้เหมาะกับฉากต่าง ๆ ได้

Status

Pending Approval

พรีเซ็ต FL และพรีเซ็ต VV2

Status

Pending Approval

พรีเซ็ต SH และพรีเซ็ต IN

ถ่ายง่าย ๆ ได้ภาพสวยในทันที!

Creative Look เป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้คุณปรับใช้สไตล์ภาพแบบพิเศษได้โดยตรงจากกล้องของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนการปรับแต่งที่ซับซ้อนในภายหลัง ด้วยพรีเซ็ตแบบต่าง ๆ ที่มีหลากหลาย แม้แต่มือใหม่ก็สามารถเพิ่มกลิ่นอายความรู้สึกและโทนสีต่าง ๆ ให้กับภาพถ่ายโดยใช้ Creative Look ได้ ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และเคล็ดลับในการใช้ฟีเจอร์ Creative Look ได้ที่ช่อง YouTube Shorts ของ Sony Asia ที่ https://www.youtube.com/@sonyasia/shorts

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Compact Full Frame Camera

FE 24-50mm F2.8 G

G Standard Zoom Lens for Full Frame

Article Theme

บุคคล

VLOG

Scenic South Korea through the lens of @bombyul | Featuring FE 20-70mm F4 G

Calvin — Fri, 22 Mar 2024 07:52:48 +0000

ทิวทัศน์อันงดงามในเกาหลีใต้ผ่านเลนส์ของ @bombyul | ด้วย FE 20-70mm F4 G

Calvin Fri, 03/22/2024 - 13:22

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7C II

Lens Category

FE 20-70mm F4 G

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

เหตุผลที่ทำให้ Bombyul เลือก FE 20-70mm F4 G

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Bombyul

ช่างภาพสายท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ผู้หมั่นเก็บภาพความประทับใจจากการเดินทางมานำเสนอผ่านหน้า Instagram ของเธอเองที่ชื่อ @bombyul อยู่เสมอ เธอจะพาเราไปชมทิวทัศน์สวย ๆ ของเมืองชอนจูในเกาหลีใต้ โดยใช้กล้อง Alpha 7C II และเลนส์ FE 20-70mm F4 G ในการเก็บภาพความงดงามครั้งนี้

คุณสมบัติเด่นของเลนส์ | FE 20-70mm F4 G

ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา พร้อม AF ที่รวดเร็ว ทำให้ FE 20-70mm F4 G สร้างมาตรฐานการซูมใหม่ด้วยช่วงความยาวโฟกัสที่กว้างยิ่งขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในเลนส์ตัวเลือกสำหรับครีเอเตอร์ผู้เก่งกาจรอบด้านและต้องเดินทางอยู่เสมอ

ความยาวโฟกัส: 20-70 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.30 ม. (W), 0.25 ม. (T)
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (X): 0.39
น้ำหนัก: 488 กรัม

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 52 mm | 1/80 sec | F4 | ISO 320

ความสะดวกในการพกพาสำคัญกับฉันมากค่ะ เพราะพื้นที่ในชอนจูส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินหรือไม่ก็ใช้ขนส่งสาธารณะ”

เหตุผลที่ทำให้ Bombyul เลือก FE 20-70mm F4 G

Bombyul ต้องการเลนส์ที่ทั้งใช้งานได้หลากหลายและพกพาสะดวก เพราะเธอมักท่องเที่ยวโดยอาศัยการเดินเป็นส่วนใหญ่ เลนส์ FE 20-70mm F4 G จึงเหมาะกับเธอที่สุด “เลนส์ตัวนี้ไม่เพียงแค่เบา แต่ยังรับประกันว่าจะให้ภาพสวยเสมอด้วยค่ะ”

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/500 sec | F4.5 | ISO 100

ถาม-ตอบเรื่องการท่องเที่ยวกับ Bombyul

ช่วยพูดถึงการใช้อุปกรณ์ของคุณในการถ่ายภาพการเดินทางให้เราฟังหน่อย

กล้อง Alpha 7C II นั้นใช้ง่ายและเหมาะที่จะใช้ถ่ายภาพแบบ handheld ร่วมกับเลนส์น้ำหนักเบาอย่าง FE 20-70mm F4 G เมื่อใช้งานคู่กันทำให้ได้ภาพที่เสถียรมาก บวกกับเลนส์ที่มีมุมกว้างขึ้นทำให้ฉันมีทางเลือกมากขึ้นและถ่ายภาพทิวทัศน์ได้หลากหลายมากขึ้นค่ะ

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/1000 sec | F4.5 | ISO 100

คุณมีคำแนะนำอะไรอยากฝากถึงเพื่อนช่างภาพสายท่องเที่ยวไหม

วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ได้ภาพถ่ายท่องเที่ยวสวย ๆ คือถ่ายให้มากเข้าไว้ การถ่ายภาพเกรดเอให้ได้สักภาพนั้นสำคัญก็จริงอยู่ แต่คุณก็ควรลองถ่ายภาพช่วงเวลาต่าง ๆ ให้มากขึ้นด้วย คุณอาจได้ภาพเกรดเอจากสถานที่ที่ไม่คาดคิดก็ได้นะคะ

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 20 mm | 1/320 sec | F6.3 | ISO 100

ช่วงเวลาใดที่สร้างความประทับใจให้กับคุณมากที่สุด

สถานที่ที่น่าจดจำคือ สวนด็อกจินในชอนจูค่ะ ที่นั่นมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ และเงียบสงบเยอะมาก เราสามารถถ่ายภาพห้องสมุดที่อยู่กลางทะเลสาบได้จากหลายมุม ตัวห้องสมุดยอนฮวาจองเองก็น่าประทับใจเช่นกันกับภาพหน้าต่างฮานคที่มีแสงแดดอุ่น ๆ ส่องผ่านและชั้นวางหนังสือที่ตั้งเรียงราย

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 45 mm | 1/125 sec | F4 | ISO 100

ที่มาของแรงบันดาลใจ

หากคุณไปเกาหลีใต้อย่าลืมแวะไปเยือนชอนจู เมื่อยืนอยู่บนเนินเขาโอมกแดแล้วมองลงไปยังชอนจูซึ่งยังคงรักษาบรรยากาศเก่าแก่เอาไว้ได้เป็นอย่างดี จะทำให้เราย้อนระลึกถึงภาพของเมืองนี้ในอดีต หากคุณชื่นชอบในบรรยากาศที่เงียบสงบ คุณจะตกหลุมรักเมืองนี้แน่ ๆ

ของเก่ากับความงดงามที่ถูกบ่มเพาะผ่านกาลเวลา”

Alpha 7C II | FE 20-70mm F4 G | 70 mm | 1/320 sec | F4 | ISO 100

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Compact Full Frame Camera

FE 20-70mm F4 G

G Standard Zoom Lens for Full Frame

Article Theme

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

การถ่ายภาพสตรีท

การท่องเที่ยว

Capture the essence of Jeju Island with @_gnal | Featuring FE 16-35mm F2.8 GM II

Calvin — Mon, 18 Dec 2023 07:14:14 +0000

ถ่ายภาพหัวใจแห่งเกาะเจจูกับ @_gnal | ด้วย FE 16-35mm F2.8 GM II

Calvin Mon, 12/18/2023 - 12:44

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7C II

Lee Jong Hyun เจ้าของบัญชี @_gnal อันโด่งดังใน Instagram เป็นช่างภาพชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับยกย่องจากผลงานการถ่ายภาพท่องเที่ยวและทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม ผลงานการถ่ายภาพชิ้นล่าสุดพาเขาไปถึงเกาะเจจูที่มีทัศนียภาพงดงาม

Jong Hyun จะมาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกถึงวิธีการสร้างคลิป Instagram Reels ที่มีคนดูมากมายในการเดินทางของเขา เขาเน้นที่การใช้เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาในการถ่ายภาพความงดงามที่รายล้อมอยู่รอบตัว

Status

Pending Approval

About the lens FE 16-35mm F2.8 GM II

3 Reel Questions

Words of encouragement

ทำความรู้จักกับเลนส์ | FE 16-35mm F2.8 GM II

เลนส์ Sony FE 16-35mm F2. 8 GM II คือเลนส์ซูมอเนกประสงค์มุมกว้างที่เป็นที่รู้จักกันดีถึงสมรรถนะที่เป็นเลิศภายใต้รูปทรงที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฉากทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม และแนวสตรีท ให้ช่วงความยาวโฟกัสกว้างและรูรับแสง F2.8 ที่มีความเร็วสูง

ความยาวโฟกัส: 16 มม. - 35 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.22 (กว้าง, เทเล) ม., 0.73 (กว้าง, เทเล) ฟุต
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (x): 0.32
น้ำหนัก: 547 ก.

Alpha 7C II | FE 16-35mm F2.8 GM II

มันเบาอย่างน่าประหลาดใจและจับได้ถนัดมือเมื่อถ่ายภาพบุคคล”

Jong Hyun กับการใช้งานเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II

เลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ที่มีช่วงความยาวโฟกัสกว้าง 16 มม ถึง 35 มม. ทำให้ Jong Hyun สามารถเก็บภาพทิวทัศน์ที่หลากหลายของเกาะเจจูได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่เนินเขาที่ทอดยาวจนถึงท้องทะเลกว้าง เลนส์น้ำหนักเบาและกะทัดรัดตัวนี้มาพร้อมมุมมองภาพกว้าง จึงเหมาะกับการเดินทางเพื่อไปยังจุดชมวิวและภูมิประเทศที่ต่างกันไปของเกาะ และเพราะเหตุนี้ ภาพทุกภาพจึงถ่ายทอดความงามที่ไม่เหมือนใครของเนินเขาและแนวชายฝั่งของเจจูไว้ได้อย่างงดงาม "เลนส์มีมุมมองภาพที่กว้าง ทั้งยังคงคุณภาพของภาพไว้ได้อย่างสม่ำเสมอจรดขอบ ทำให้ภาพถ่ายทิวทัศน์ยิ่งงดงามขึ้นไปอีก"

คำถาม 3 ข้อเกี่ยวกับ Reels

ในคลิป Reel นี้คุณพยายามจะสื่อถึงอารมณ์แบบใดเป็นการเฉพาะ

สำหรับคลิป Reel ชุดนี้ ผมตั้งใจจะถ่ายทอดหัวใจหลักของการท่องเที่ยวในเกาะเจจู โดยการนำเสนอฉากของเนินเขา ทะเล และพื้นที่ที่มีความโดดเด่น ผมอยากทำให้คนคิดว่า "อยากไปที่นี่บ้างจัง"

Status

Pending Approval

คุณมีการวางแผนและจัดการคลิป Reels ของคุณอย่างไรบ้าง

ผมเลือกธีมให้กับคลิป Reels ของผมตามปกตินะครับ อย่างเช่น ทิวทัศน์ หรือพื้นที่ จากนั้น ผมจะสร้างช่วงเปิดตัววิดีโอที่ส่งผ่านอารมณ์อย่างทรงพลัง วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคน หลังจากช่วงนี้ ผมจะตัดต่อฉากไปตามลำดับให้สอดคล้องกับการลื่นไหลของพื้นที่

Status

Pending Approval

คนส่วนมากจะใช้สมาร์ทโฟนถ่ายคลิป Reels หากเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

อุปกรณ์ระดับมืออาชีพ เช่น กล้อง Alpha 7C II และเลนส์ FE 16-35mm F2.8 GM II ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับงานได้เหนือกว่าสมาร์ทโฟนอย่างชัดเจนครับ กล้องสามารถแก้ไขสีและโฟกัสได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย นอกจากนี้ เลนส์ก็มีชื่อเสียงมากในด้านคุณภาพและความคมชัดของภาพซึ่งเป็นประโยชน์มากครับ

Status

Pending Approval

ข้อคิดเพื่อเป็นกำลังใจ

Jong Hyun ท่องเที่ยวไปทั่วโลกโดยตั้งใจที่จะนำเสนอจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่หลากหลายผ่านการถ่ายภาพและการผลิตคลิป Reels “คลิป Reel แต่ละชิ้นที่ถ่ายไปคือการฝึกฝนทักษะของคุณให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ การใช้กล้องและเลนส์จะทำให้วิดีโอของคุณมีภาพลักษณ์ที่ประณีตและเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น”

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C II

Compact Full Frame Camera

Article Theme

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

การท่องเที่ยว