ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังสั้นที่ใช้กล้อง Sony FX6 ในการถ่ายทำตลอดทั้งเรื่อง โดยมีนักเล่นกระดานโต้คลื่นชั้นแนวหน้าของแอฟริกาใต้อย่าง Adin Masencamp เป็นผู้แสดง ผลงานที่น่าหลงใหลชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ FX6 ในการจับภาพความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้อย่างง่ายดาย ฟุตเทจที่ได้จะดูลื่นไหลและทรงพลังเมื่อใช้การตั้งค่าแบบภาพยนตร์ที่ถูกต้องเหมาะสม

อยากรู้แล้วใช่ไหมว่า FX6 สามารถถ่ายทำวิดีโอที่ให้ภาพราวกับมืออาชีพได้อย่างไร มาเจาะลึกไปด้วยกันเลย

ในบทแรก คุณจะได้เรียนรู้วิธีการไล่ดูเมนูและการเลือกตัวแปลงสัญญาณให้เหมาะสมกับกล้อง รวมทั้งแนะนำให้คุณรู้จักปุ่มลัดต่าง ๆ มากมาย ตลอดจนฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด นั่นคือ ND ในตัว

ต้องบอกก่อนว่า FX6 คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ไฟแรง เนื่องจากกล้องรุ่นนี้มีดีไซน์ที่กะทัดรัดและใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสามารถสุดล้ำที่ช่วยให้ใช้งานกล้องได้ในแบบมืออาชีพ คุณสมบัติของ FX6 ที่ Jacques ชื่นชอบมากเป็นพิเศษก็คือ ความสามารถในการบันทึกโดยใช้การแปลงสัญญาณแบบ XAVC-I ที่ทำให้รองรับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและอัตราบิตสูงขึ้นได้

คุณสามารถค้นหารายการใน FX6 ได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่มเมนูเพื่อเข้าไปที่เมนูแสดงสถานะ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเลือกเปลี่ยนการตั้งค่าที่ใช้บ่อยที่สุดได้ ฟังก์ชันคู่ใจของ Jacques คือโหมด slow & quick (S&Q) ซึ่งเขาจะใช้สำหรับการถ่ายภาพสโลว์โมชันและฟาสต์โมชันโดยเฉพาะ

เขาอธิบายว่า “บางครั้งคุณอาจอยากเห็นความเร็วที่มันเกิดขึ้นจริง ๆ และบางครั้งสโลว์โมชันก็ทำให้การรับชมภาพยนตร์ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น”

ฟิลเตอร์ ND แบบปรับได้ในตัวถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญเช่นกัน เพราะช่วยให้คุณถ่ายภาพโดยเปิดรูรับแสงกว้างเพื่อให้ได้ระยะชัดที่ดียิ่งขึ้นได้ คุณสามารถเปลี่ยนฟิลเตอร์ไปเป็นโหมดอัตโนมัติซึ่งจะทำให้การเปลี่ยนแปลงของแสงมีความลื่นไหลยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องในสภาวะแสงที่เปลี่ยนไป

หลังจากที่ได้รู้ข้อมูลพื้นฐานแล้ว ตอนนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโหมด Cine EI และพรีเซ็ต S-Cinetone รวมถึงเคล็ดลับวิธีการเปิดใช้ S-Log3 บน FX6 อย่างถูกต้องกัน

Cine EI เป็นหนึ่งในโหมดคู่ใจของ Jacque โหมดนี้จะใช้ประโยชน์จากกล้องอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อบันทึกภาพโดยใช้ S-Log3 ด้วยช่วงไดนามิกดีที่สุด หากทำงานโดยใช้โปรไฟล์นี้ สิ่งสำคัญคือต้องใช้ LUT การใช้ LUT จะช่วยให้ได้ภาพที่เหมาะสำหรับการตรวจสอบบนหน้าจอโดยไม่ส่งผลต่อข้อมูลเอาต์พุตสำหรับการตัดต่อ

หากเป้าหมายของคุณคือการถ่ายภาพและส่งฟุตเทจจากกล้องโดยตรงพร้อมทั้งมีการปรับแต่งหลังถ่ายน้อยที่สุด โปรไฟล์ S-Cinetone คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ S-Cinetone ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการทำงานที่เร่งรีบจะช่วยให้คุณได้ภาพที่สวยแบบภาพยนตร์โดยไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม ขอบอกไว้เลยว่าไม่มีอะไรที่จะมีสมรรถนะเทียบชั้นกับ S-Log3 ได้อีกแล้ว

ในบทนี้ เราจะมาบอกข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่คุณควรทราบเกี่ยวกับโฟกัสอัตโนมัติ

Jacques แนะนำให้ใช้เลนส์ Sony ของแท้เพื่อสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในการโฟกัส การสลับใช้งานระหว่างโฟกัสแบบแมนนวลและแบบอัตโนมัติสามารถทำได้สองวิธี นั่นคือ ที่ตัวกล้องจะมีสวิตช์ AF-MF อยู่ที่แผงด้านหน้า ในขณะเดียวกันที่ตัวเลนส์เองก็มีปุ่มสำหรับการใช้งานนี้โดยเฉพาะด้วยเช่นกัน

FX6 มีโหมดโฟกัสหลายโหมด เช่น โหมดมุมกว้างที่มาพร้อมระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ โหมดนี้ทำให้มั่นใจได้ว่ากล้องจะโฟกัสที่ดวงตาของตัวแบบเสมอ ไม่ว่าจะมีระยะชัดค่าใดก็ตาม แต่โหมดนี้จะมีข้อจำกัดหากเป็นการถ่ายภาพตัวแบบที่มีจุดโฟกัสหลายตำแหน่ง และในกรณีนี้เองที่การติดตามแบบเรียลไทม์จะเข้ามามีบทบาท

วิธีการโฟกัสอัตโนมัติที่ Jacques ชอบใช้คือการโฟกัสติดตาม ซึ่งเหมาะมากอย่างไม่น่าเชื่อในฉากที่กล้องไม่สามารถมองเห็นดวงตาของตัวแบบได้ ยกตัวอย่างเช่น หากตัวแบบของคุณหันหน้าหนีกล้องไปทางอื่น คุณสามารถเลือกตำแหน่งอ้างอิงที่จุดใดก็ได้และสังเกตว่ากล้องยังจับโฟกัสได้อยู่หรือไม่แม้ว่าตัวแบบจะมีการเคลื่อนไหวเช่นไรก็ตาม

นอกจากนี้ FX6 ยังมีโหมดโฟกัสแบบไฮบริดที่สามารถตั้งค่าความเร็วและความไวในการตรวจจับวัตถุแบบกำหนดเองได้อีกด้วย การใช้งานโหมดนี้สามารถทำได้เพียงกดปุ่ม AF ที่เลนส์ พร้อมทั้งเปลี่ยนไปใช้โหมดโฟกัสแบบแมนนวลที่กล้อง โหมดนี้จะทำให้การโฟกัสมีความเที่ยงตรงแม่นยำในทุกโหมดและทุกค่าอัตราเฟรม

FX6 สามารถปรับการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมและใช้ได้กับการกำหนดค่าหลากหลายรูปแบบ ต่อไปเราจะมาเจาะลึกถึงวิธีต่าง ๆ ในการตั้งค่าอุปกรณ์จับยึดสำหรับการสร้างภาพยนตร์

FX6 มีคุณสมบัติเด่นด้านการใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องทำการตั้งค่าเพิ่มเติม กล้องรุ่นนี้มีการออกแบบที่สอดคล้องตามหลักการยศาสตร์จึงสามารถปรับใช้ในกองถ่ายขนาดเล็กได้อย่างน่าทึ่ง พร้อมด้วยขนาดที่พอเหมาะจนคุณสามารถวางกล้องแนบตัวได้สะดวก ซึ่งลักษณะเช่นนี้เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยหรืออยู่กับที่

ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง คุณสามารถใช้ที่จับด้านข้างเพื่อถ่ายภาพแบบ handheld และใช้ที่จับด้านบนเพื่อถ่ายภาพมุมต่ำได้ นอกจากนี้ยังมีชุดยึดแบบพาดบ่าซึ่งจะมีตัวเกี่ยวที่ช่วยให้อุปกรณ์มีความเสถียรเป็นพิเศษ

เมื่อติดตั้งขาตั้งกล้อง สิ่งสำคัญคือต้องหาจุดสมดุลของกล้องเพื่อป้องกันกล้องเอียงไปด้านหน้าหรือด้านหลังโดยไม่ตั้งใจ เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น ลองพิจารณาเพิ่มระบบแบตเตอรี่ V-Mount ที่ด้านหลังเพื่อคืนสมดุลและลดการสั่นสะเทือนเล็ก ๆ น้อย ๆ วิธีนี้จะช่วยให้การเคลื่อนไหวมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถเพิ่มกิมบอลให้กับ FX6 ได้ด้วย แต่พึงระลึกไว้ว่าคุณจะไม่สามารถบันทึกเสียงคุณภาพสูงได้หากใช้การกำหนดค่านี้ หากต้องการคุณภาพเสียงระดับสุดยอด ควรเตรียมการบันทึกภายนอกเมื่อใช้การตั้งค่ากิมบอล

ในตอนนี้เราจะมาแนะนำฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับอัปเดตเฟิร์มแวร์ล่าสุด หนึ่งในการปรับปรุงที่มีความสำคัญที่สุดคือ ตัวเลือกระบบโฟกัสอัตโนมัติในโหมด S&Q ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกอัตราเฟรมที่ต้องการได้ไม่ว่าจะใช้ความถี่ฐานค่าใดก็ตาม

อีกหนึ่งคุณสมบัติเพิ่มเติมที่น่าทึ่งมากคือฟังก์ชันยืดภาพ ที่จะช่วยให้คุณแสดงผลของเลนส์ Anamorphic ผ่านช่องมองภาพและสายต่อ HDMI ได้อย่างถูกต้อง ฟังก์ชันดังกล่าวจะทำงานเหมือนการแสดง LUT ผ่านจอภาพ ซึ่งหมายถึงฟุตเทจสำหรับการตัดต่อของคุณจะยังคงอยู่ในสภาพเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

เวอร์ชัน 4.0 ยังรองรับโหมดการถ่ายภาพใหม่ ๆ ใน S-Log3 ด้วย นอกจาก Cine EI แล้ว ยังมีโหมดเสริมอีกสองโหมดมาให้เลือก นั่นคือ CineEI Quick และ Flexible ISO โหมดเหล่านี้ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพด้วยช่วงไดนามิกสูงสุดจากกล้อง และเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากควบคุมค่าการรับแสงมากขึ้น

ในบทสุดท้ายของซีรีส์ชุดนี้ เราจะมาดูวิธีต่าง ๆ ในการใช้งาน FX6 ร่วมกับกล้องตัวอื่นในกลุ่ม Cinema Line แม้ว่าจะมีความแตกต่างกัน แต่กล้องเหล่านี้ทุกตัวล้วนสามารถสร้างภาพที่งดงามซึ่งให้ประสิทธิภาพของสีในระดับเดียวกัน จึงสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา

สำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีงบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง มีเคล็ดลับหนึ่งที่ควรรู้นั่นคือ ให้ใช้ประโยชน์จากกล้องที่มีขนาดเล็กกว่ามาเป็นกล้องเสริมที่ใช้ร่วมกับ FX6 สำหรับภาพยนตร์เกี่ยวกับการโต้คลื่นนี้ Jacques ได้เตรียม FX30 ไว้เป็นกล้องสำรองเพื่อถ่ายภาพแบบ handheld ด้วยความรวดเร็วโดยไม่ต้องถอด FX6 ออกจากขาตั้งกล้อง เขากล่าวเสริมว่า "วิธีนี้เป็นประโยชน์มากสำหรับช่วงเวลาที่ไม่ได้คาดคิด ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการถ่ายภาพช่วงเวลานั้นเอาไว้ให้ได้ ยิ่งได้ภาพที่มีสีเหมือนกันนั่นคือชัยชนะครั้งใหญ่เลยครับ!"

สรุปได้ว่า FX6 คือเครื่องมือสารพัดประโยชน์ที่เหมาะทั้งกับผู้สร้างภาพยนตร์มืออาชีพและน้องใหม่ไฟแรง หากคุณกำลังมองหากล้องขนาดกะทัดรัดแต่มีสมรรถนะสูงที่ให้ภาพเคลื่อนไหวแบบภาพยนตร์ชั้นเลิศ นี่คือกล้องที่ใช่สำหรับคุณ